วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ไขปริศนา สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ !

สัปดาห์หน้าก็จะมีหนังผจญภัยแฟนตาซีเข้าฉายในบ้านเรา ซึ่ง teen.mthai ว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายๆ คนรอคอยเลย Percy Jackson 2 : Sea of Monsters นั่นเองคะ ซึ่งในหนังเรื่องนี้มีเนื้อหาที่น่าสนใจตรงที่ ผจญภัยในทะเลไปยัง ดินแดนอาถรรพณ์ ที่รู้จักกันในชื่อ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า วันนี้  teen.mthai ก็เลยนำ รื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ (Bermuda Triangle) มาฝากเพื่อนๆกันคะ ทั้งเรื่องตำนานอาถรรพ์ ทฤษฏีต่างๆ ที่ทุกคนค้นหา จนการเปิดเผยข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ .. (เรื่องยาวหน่อยนะคะ)

ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthaiftghty

เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์

สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle) ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดี เพราะมันเป็นบริเวณดินแดนอาถรรพณ์ อันเป็นที่ล่ำลือกันว่าเต็มไปด้วยความลี้ลับ มันเป็นดินแดนที่กลืนกินชีวิตมนุษย์และเรือเดินทะเลที่กลืนกินชีวิตมนุษย์และเรือเดินทะเล เครื่องบินที่โชคร้ายบังเอิญผ่านเข้าไปก็อาจหายสาบสูญไปอย่างไม่มีร่องรอยให้เห็นอีกเลย (ฟังดูน่ากลัวจัง >,<) นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปี ค.ศ.1976 มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณ เบอร์มิวด้าแล้วเป็นจำนวน 143 ราย รวมชีวิตมนุษย์เท่าที่ทราบแน่นอน เป็นจำนวน 2,101 คน ที่ต้องสังเวยไปในดินแดนอาถรรพณ์แห่งนี้
มารู้จัก สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า กันหน่อย!
  • สามเหลี่ยมเบอร์มิวดามีเนื้อที่ประมาณ 1.14 ล้านตารางกิโลเมตร (4.4 แสนตารางไมล์) อยู่ระหว่างจุด 3 จุดได้แก่ เปอร์โตริโก ปลายสุดของรัฐฟลอริดาในสหรัฐอเมริกา และเกาะเบอร์มิวดา
  • เป็นเกาะตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติกและดินแดนในปกครองของสหราชอาณาจักร มีพื้นที่ครอบคลุมช่องแคบฟลอริดา หมู่เกาะบาฮามาส และหมู่เกาะแคริบเบียนทั้งหมด
  • แต่แนวคิดที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายกว่า เนื่องจากปรากฏในงานเขียนจำนวนมาก ระบุว่า จุดปลายสุดของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ได้แก่ ชายฝั่งแอตแลนติกของไมอามี, ซานฮวน เปอร์โตริโก, และเกาะเบอร์มิวดา ด้วยเหตุว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งด้านใต้โดยรอบหมู่เกาะบาฮามาสและช่องแคบฟลอริดา
  • พื้นที่ดังกล่าวเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ที่หนาแน่นที่สุดในโลก โดยมีเรือผ่านพื้นที่นี้เป็นประจำทุกวันมุ่งหน้าไปยังเมืองท่าในทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และหมู่เกาะแคริบเบียน เรือสำราญที่ผ่านพื้นที่นี้ก็มีมากเช่นกัน เรือเที่ยวเองก็มักจะมุ่งหน้าไปและกลับระหว่างฟลอริดากับแคริบเบียนอยู่เป็นปกติ นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่ซึ่งมีการสัญจรทางอากาศอย่างหนาแน่น ทั้งอากาศยานพาณิชย์และส่วนตัว ซึ่งมุ่งหน้าไปยังฟลอริดา แคริบเบียน และทวีปอเมริกาใต้
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai100000
เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์  (Bermuda Triangle)
  • สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ โดยแท้จริงแล้ว เป็นอาณาบริเวณกว้างใหญ่มาก เป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติกภาคตะวันตก พื้นที่ทั้งหมดปกคลุมพื้นทะเลตั้งแต่ตอนเหนือของหมู่เกาะเบอรืมิวด้าไปยังทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดาตีวงออกไปในทะเลทางตะวันออกไปจนภึงหมู่เกาะบาฮามัส เลยไปอีกจนถึงอ่าวเม็กซิกโน้นแหนะ ..
  • ถ้าดูตามแผนที่จะครอบคลุ่มพื้นที่ประมาณ 380,000 ตารางไมล์ทะเล ซึ่งถ้าดูกันจริงๆ แล้ว มันไม่ใช่พื้นที่เป็นรูปสามเหลี่ยมเหมือนกับชื่อของมันเลย ไม่ทราบว่าชื่อ “สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า” นี้ได้มาอย่างไร? (นั่นสิ!;) มีผู้พยายามตั้งชื่อเสียใหม่ว่า “บริเวณดินแดนปิศาจ” บ้างก็เรียกว่า “สามเหลี่ยมปีศาจ” (Devil’s Triangle)
  • ตามชื่อเสียงของมันได้ถูกขนานนามขึ้นมาในราวๆ ปี ค.ศ.1960 เลื่องลือกันไปทั่วถึงอันตรายของการหายสาบสูญอย่างไม่มีวันได้กลับคืนมา จากบันทึกของกองเรือยามฝังสหรัฐฯ และบริษัทประกันภัยทางทะเล บริษัทประกันภัยเรือเดินสมุทรและเครื่องบิน มีสถิติความสูญหายอย่างผิดปกติในอาณาบริเวณนี้เป็นบริเขตต้องห้ามและเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงๆ
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai6_0
ความอาถรรพณ์ ของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle)
สิ่งที่ทำให้ย่านทะเลแห่งนี้กลายเป็นดินแดนอาถรรพ์ มรณะ ซึ่งทำให้นักบินหรือนักเดินเรือต่างพยายามหลีกเลี่ยง ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ยอมผ่านเข้าไปในบริเวณนี้อย่างเด็ดขาดอาจเป็นเพราะความเชื่อในเรื่องอันพิลึกกึกกือที่เป็นข่าวระบือลือลั่นกันไม่รุ้จบระหว่างคนในระแวกนั้น เหตุการณ์ประหลาดๆ อย่างที่ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้ มักจะเกิดขึ้นกับเรือ หรือเครื่องบินที่ผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น
  • นับตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน จากสถิติของบริษัท Lioyd’s ov London ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยเรือเดินสมุทร พบว่านับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 ถึง 1973 (ราว 10 ปี) มีเรือในประกันของบริษัทจำนวน 60 ลำ รวมผู้โดยสาร 900 คน ได้หายสาบสูญไปในบริเวณน่านน้ำเบอร์มิวด้า
  • โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 1967 มีเรือทะเล เรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้หายไปอย่างลึกลับเป็นจำนวน 15 ลำ ทั้ง 15 ลำ ไม่มีการส่งสัญญาณ “SOS” หรือส่งวิทยุขอความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่แปลกน่าฉงน และน่ากลัวที่สุดก็คือ เรือทั้ง 15 ลำนั้นเป็นเรือขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ช่วยในการเดินเรือแบบทันสมัยบริบูรณ์ เช่นวิทยุสื่อสาร เราดาร์นำร่องโซนาร์นำร่อง การค้นหาได้กระทำกันเป็นเดือนๆ แต่ก็ประสบผลล้มเปลวโดยสิ้นเชิงไม่พบแม้แต่เงา นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ไดมาจากบริษัทประภัยของเอกชนที่ต้องจ่ายประกันไปจนบริษัทแทบล้มละลาย น้ำมาซึ่งความงุนงง ให้แก่ผู้ที่อยู่ข้างหลังอย่างสิ้นหวัง อะไรเกิดขึ้นกับเรือเหล่านั้น ลูกนาวี 900 คนหายไปไหนใครบ้างจะมีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้
  • ตัวอย่างอีกรายหนึ่งที่จะขอยกมาให้พิจารณาว่ามันเป็นอาถรรพณ์ของดินแดนมรณะแห่งนี้ (หรือเป็นเพียงอุบัติเหตุ) คือ การหายสาบสูญของฝูงบินขับไล่ทิ้งระเบิดนาวีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945 , เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ TBM ของนาวีสหรัฐฯ 1 ฝูงบิน (5 เครื่อง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องทั้งหมด 14 นาย ได้ออกทำการบินฝึกทิ้งระเบิดเหนือดินแดนเบอร์มิวด้า ห่างจากฐานทัพฟอร์ทล๊อคเดอร์เดลประมาณ 225 ไมล์ และแล้ว ฝูงบินทั้ง 5 ลำก็หายสาบสูญ ไม่เหลือแม้แต่เงา นาวีสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินผู้ประสบภัยมาร์ติน มารีนเนอร์ แบบ PBM (เป็นเครื่องบินน้ำ 2 เครื่องยนต์) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำเครื่อง 13 นาย อกตามหา 20 นาทีต่อมา PBM ก็หายสาบสูญ โดยขาดการติดต่อกับหอบังคับการ และหายไปอย่างลึกลับเช่นกันไม่มีเหลือแม้แต่เงา
  • มันจะเป็นเหตุบังเอิญ อุบัติเหตุ หรือเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริง แนวโน้มจากสถิติการสูญหายอาจบอกเราได้ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปี ค.ศ.1976 มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณเบอร์มิวด้าแล้วเป็นจำนวน 143 ราย รวมชีวิตมนุษย์เท่าที่ทราบแน่นอนเป็นจำนวน 2,101 คน ที่ต้องสังเวยไปในดินแดนอาถรรพณ์แห่งนี้
  • สถิติการสูญหายมีมากที่สุดในปี ค.ศ. 1975 คิดมีการสูญสาย 11 ราย เฉลี่ยเดือนละราย เมื่อเปรียบเทียบความเสียหายในบริเวณนี้กับบริเวณเส้นทางเดินเรืออื่นๆ แล้ว พบว่าแถบเบอร์มิวด้าต้องเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงๆ เพราะในน่านน้ำที่อื่นๆ ไม่มีสถิติการสูญหายมากเท่านี้เลย O,O!!!
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai1_display
เรื่องเล่า ความอาถรรพณ์ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า จากผู้ที่บังเอิญรอดตาย!!
ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้มาจากบรรดาผู้ที่บังเอิญรอดตายหรือหลบหลีกกับได้ จากบันทึกการติดต่อครั้งสุดท้ายโดยวิทยุกับพวกที่หายสาบสูญไป มีรายงานที่น่าสนใจหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าอะไรก็ตามที่ได้เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นคล้ายปรากฏการณ์ของธรรมชาติ ที่ยังไม่มีมนุษย์หน้าไหนเคยรู้จักกันมาก่อน
1. รายงานที่พบเป็นประจำ การขัดข้องเกิดขึ้นกับเครื่องมือนำล่อง
  • ตัวอย่างรายงานทำนองนี้ได้แก่รายงานทางวิทยุครั้งสุดท้ายก่อนการหายสาบสูญไป ของนักบิน นาวีร้อยเอกเทเลอร์ (Charles Taylor) ได้ส่งวิทยุติดต่อแจ้งเข้ามา ยังหอบังคับการบินที่ Fort Lauderdale Naval Air Station ในขณะที่กำลังบินกลับจากการฝึกบินตามปกติ เขาแจ้งเข้ามาด้วยวิทยุความถี่ฉุกเฉินว่า “เข็มทิศหมุนอย่างบ้าคลั่ง ผมจับทิศไม่ถูกแล้วผมไม่ทราบตำแหน่งว่าผมอยู่ที่ไหน” จากนั้นเสียงก็ขาดหายไป และแล้วร้อยเอกเทเลอร์กับเครื่องบินของเขาก็ไม่ปรากฏตัวที่ไหนอีกเลย เขาหายสาบสูญไปชั่วนิรันดร
  •  ข้อมูลประการที่หนึ่งที่เราพบก็คือ มีพลังบางอย่างที่มีผลกระทบกับเครื่องมือนำทาง เช่นเข็มทิศ เครื่องวัดความสูง เครื่องวัดความเร็ว และเครื่องมือสื่อสาร นั่นคืออำนาจลึกลับนี้มีผลกระทบกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับแม่เหล็กไฟฟ้าทั้งหมด โดยเฉพาะเข็มทิศแม่เหล็ก
2. เกิดความสับสนขึ้นกับประสาทความรู้สึกในการรับรู้ทั้ง 5 ของผู้ที่หลุดเข้าไปในดินแดนอาถรรพณ์
  • ทำให้ผู้นั้นงุนงง สับสนต่อเหตุการณ์ และที่สุดคือสูญเสียความรู้สึกในเรื่องเวลา และการทรงตัว คาดว่ามีสาเหตุอีหหนึ่งอย่างจากผลกระทบกับเครื่องมือนำทาง ทำให้เสียการควบคุม
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai1_display (1)
3. มีการรบกวนทางระบบไฟฟ้า และการติดต่อสื่อสารทางวิทยุจะถูกตัดขาด
  • นี่คือข้มูลอีกข้อหนึ่งที่เราจะพบเสมอจากรายงานครั้งสุดท้ายของผู้ที่หายสาบสูญไปในดินแดนอาถรรพณ์ ดังตัวอย่างการหายสายสูญของฝูงบินขับไล่ทิ้งระเบิดที่ 19 ของนาวีสหรัฐอเมริกา (หายทั้งฝูงเลย) มีเครื่องบินแบบ TBM อเว็งเจอร์ จำนวน 5 ลำ ได้ออกบินฝึกตามภารกิจปกติ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945 และได้หายสาบสูญไปอย่างลึกลับ ถึงแม้จะมีการระดมหน่วยค้นหาตามล่ากันอย่างละเอียดถี่ถ้วนครอบคลุมพื้นที่ทุกๆ ตารางฟุต กว้างถึง 380,000 ตารางไมล์ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา
  • รายงานสุดท้ายที่จ่าฝูง.ร้อยเอก โรเบิร์ต คอส รายงานมา รับฟังได้จากวิทยุ ณ ฐานทัพภาคพื้นดิน ตอนหนึ่งกล่าวด้วย น้ำเสียงของคนตกใจสุดขีดว่า.. “อย่าตามผมมา แยกกันออกไป แยกกันออกไป” แล้วเสียงวิทยุก็ถูกตัดขาดทันที เหมือนกับว่ามีใครไปปิดเครื่องส่งของเขาฉะนั้น ร้อยเอกโรเบิร์ต คอส บินเข้าไปพบอะไร ไม่มีใครทราบ แต่สิ่งที่เขาพบต้องเป็นสิ่งที่น่ากลัวจนทำให้เขาสั่งลูกฝูงไม่ให้บินตามเข้าไป แต่ก่อนหน้านั้นมีเสียงวิทยุโต้ตอบกันระหว่างจ่าฝูงกับลูกฝูงของเขา ซึ่งรับฟังได้ยินไม่ชัดเจน เป็นเสียงขาดๆ จางๆ และมีคลื่นแทรกรบกวนมาก พอจะจับความได้บ้างบางตอนว่า ฝูงบินที่ 19 กำลังหลงเข้าไปในสภาพบรรยากาศอันผิดปรกติ แปลกประหลาดอย่างหนึ่ง
Picture1
ปรากฏการณ์ “หมอกเรืองแสงสีขาว”
  • นี่คือข้อมูลที่ได้รับจากวิทยุติดต่อกันระหว่างฝูงบินที่ 19 เสียงจ่าฝูงดังมาแล้วได้ยินชัดว่า “สงสัยว่าเราหลงทางทำไมแถวนี้มีแต่หมอกสีขาวเรืองแสงไปหมด เฮ้ พื้นน้ำเป็นสีขาว ไปหมด มองไม่เห็นท้องฟ้า มันขาวโพลนไปหมด” นี่เราอยู่ที่ไหนกัน เข็มทิศผมมันหมุนติ้วไปหมดแล้ว “แล้วทุกอย่างก็เงียบหายไป ฝูงบินที่ 19 หายสาบสูญไปจากโลกของเรา
  • อีกตัวอย่างหนึ่ง ได้แก่รายงานการหายตัวอย่างลึกลับของเครื่อง 727 หายวับจากจอเรดาร์ของสนามบินไมอามี่ ขณะเรื่อง 727 ลำนั้นกำลังปักหัวลงสู่สนามบิน ของสายการบิน National airline บินดำดิงลงมา ผ่านเข้าหมูเมฆขาวก้อนเล็กๆ จู่ ๆ ก็หายวับไปจากจอ เรดาร์ พนักงานหอบังคับการต่างวิ่งกันวุ่นกรดปุ่มสัญญาณเตรียมลงฉุกเฉิน บางคนกล้องส่องทางไกล เผ่นออกไปนอกบังคับการ เพื่อมองหาแต่ไม่มีใครเห็นอะไร นอกจากก้อนเมฆก้อนนั้น ภาพปรากฏใหม่บนจอเรด้าร์ แล้ว 727 ก็บินลงสนามทางปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งบินและผู้โดยสานเครื่องบิน 727 ต่างงงไปตามๆ กันเมื่อเห็นว่ามีรถดับเพลิง รถพยาบาล รถกู้ภัย ของสนามบินต่างวิ่งตามกันมาห้อมล้อมกันเต็มไปหมด
  • ภายหลังจึงทราบว่าอะไรเกิดขึ้น เวลาของนักบินและของผู้โดยสาย เที่ยวบินนั้นได้ขาดหายไป 10 นาที ทั้งๆ ที่ไม่มีใคร รู้เลยว่าเวลา 10 นาทีนั้นขาดหายไปไหน และหายไปได้อย่างไร การสอบสวนไม่ได้ให้ความกระจ่างอะไรเพิ่มเติม นอกจากจะเพิ่มความงุนงงมากขึ้นเท่านั้น “มันแปลกอยู่หน่อยที่เมฆก้อนนั้นมันมีความสว่างผิดปรกติธรรมดา คล้ายกับว่ามันมีแสงเรืองในตัวเอง แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไรเลย ผมไม่เข้าใจว่าเวลามันหายไปตอนไหน เจ้าหน้าที่หอบังคับการเขาว่าผมบินหายเข้าไปในเมฆนานถึง 10 นาที แต่มันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ เพราะเมฆมันก้อนเล็กนิดเดียว ผมบินทะลุเมฆลงมาในเวลาไม่ถึง 3 วินาทีก็ออกมาเป็นทางวิ่งลงแล้วนี่ครับ”ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai1_display (3)
ผลจากการสแกนพื้นทะเล พบซากเรือขนาดใหญ่ประจัดกระจายเต็มพื้นที่
อีกมุมมองหนึ่งของ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดของ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ 
1. บางคนคาดว่า : การหายสาบสูญนั้นอาจเกิดจากเรื่อเหล่านั้นแล่นไปชนเอาทุ่นระเบิด(ที่หลงเหลือจากสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง)
  • คำโต้แย้ง : แนวคิดข้อนี้ดูจะเป็นไปได้น้อยมาก เพราะมันไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์ประหลาดอีกหลายกรณีได้เลย เช่น ในกรณีที่เรือเดินทะเลบางลำลอยเท้งเต้งเข้าหาฝั่ง โดยที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่บนเรือนั้นเลยแม้แต่คนเดียว ข้าวของและของมีค่าอื่นๆ ยังอยู่ครบบริบูรณ์บนเรือ กะลาสีเรือและกัปตันเรือหายตัวไปหมดโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างนี้จะอธิบายได้อย่างไรละ
2. บางคนคาดว่า : การหายสาบสูญของเรือ อาจเกิดจากพายุในทะเลที่ก่อตัวขึ้นอย่างฉับพลัน
  • คำโต้แย้ง : ไม่มีวันที่พายุใหญ่ๆ ขนาดนั้นจะรอดสายตาของนักอุตุนิยมวิทยาไปได้ และอย่างน้อยเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ๆ ก็มีเครื่องมือตรวจพายุอยู่ด้วย อย่างน้อยก็ต้องมีการส่งขาว รายงานเข้าสู่ฝั่ง หรือวิทยุขอความช่วยเหลือมาบ้างถ้าเจอเข้ากับพายุใหญ่ขนาดที่จะจมเรือเดินสมุทรได้
3. บางคนคาดว่า : มันเป็นเรื่องความเชื่อ อันเกิดมาจากเหตุบังเอิญด้วยเหตุพ้องจองที่ว่า แถบเบอร์มิวด้า มีภาวะแวดล้อมที่ผิดแผกไปจากบริเวรเส้นทางเดินเรืออื่นๆ เท่านั้นเองจึงทำให้เกิดความผิดพลาดและเกิดอุบัติเหตุทางเรือได้ง่าย เป็นเหตุให้เกิดเรืออับปาง และเครื่องบินตกได้ง่ายกว่าที่อื่น
  • คำโต้แย้ง : แต่ในกรณีเรือ ไซคล๊อปส์ หายไปอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ.1918 จู่ๆ มันก็ปรากฏตัวลอยเท้งแต้งเข้าฝั่งมาเกยตื้น โดยมีแต่เรือเปล่าปราศจากผู้โดยสาร จำนวน 309 คนหายไปไหนกันหมด ข้าวของมีค่าทุกชิ้นทั้งอาหารและสินค้าบนเรือยังอยู่บริบูรณ์ จะว่าเรือถูกโจรสลัดปล้นก็ไม่ใช่
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthaiimages
4. ทฤษฎีการบ่ายเบนของสภาพเวลาอวกาศ ดร.แซนเดอร์สัน ไอแวน (Dr” Sanderson Ivan) เป็นผู้เสนอแนวความคิดนี้ขึ้น
  • เขียนไว้ในหนังสือชื่อ “Invisible Residents” ทฤษฎีนี้กล่าวสรุปว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นบริเวณที่มี “สาเหตุไม่ปกติ” ทางธรรมชาติเกิดขึ้นเนื่องมาจากเป็นบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลก และสนามไฟฟ้าของโลกมากที่สุด
  • เมื่อมีกระแสน้ำอุ่นจาก ตอนเส้นศูนย์สูตรไหลขึ้นไปทางเหนือของมหาสมุทรแอรแลนติก ปะทะกับกระแสน้ำเย็นที่ไหลลงสู่ทางใต้จากขั้วโลกเหนือการปะทะกัน ทำให้เกิดการแบ่งตัวกันของระดับน้ำเป็นชั้นๆ ชั้นบนจากผิวน้ำลงไปสู่ความลึกประมาณ 500 ถึง 1,000 ฟุต จะเป็นชั้นของกระแสน้ำอุ่น ลึกลงไปจากนี้ก็จะเป็นชั้นของกระแสน้ำเย็น ทั้งสองชั้นนี้มีทิศทางการไหลของน้ำสวนทางกัน ซึ่งอยู่ในระดับความลึก 500 ถึง 1,000 ฟุต จะเกิดการอันแน่นของกระแสน้ำ มีการขัดถูกัน และมีการถ่ายเทอุณหภูมิกันอย่างมกมาย เกิดการถ่ายถ่ายเทขัดสีกันของประจุไฟฟ้าสถิตขึ้นอย่างมากมาย เป็นจำนวนมหาศาลหลายพันล้านโวลต์ จึงเกิดการเหนี่ยวนำของสนามไฟฟ้าเป็นผลกระบตามมา ประกอบกับการผันแปรของสนามแม่เหล็กโลกซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในบริเวณนี้
  • การผันแปรของสนามแม่เหล็กโลก และสนามไฟฟ้าอาจมีการแปรผันสัมพันธ์กัน นำไปสู่ภาวะการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นชั่วคราว กระทบกระเทือนกับสนามแรงโน้มถ่วงของโลกในบริเวณนั้น และนี่คือผลกระทบทีทำให้เกิดการบ่ายเบนของสภาพเวลา-อวกาศ เมื่อสาเหตุไม่ปกตินี้เกิดขึ้น ก็จะทำให้เรือหรือเครื่องบินที่บังเอิญอยู่ตรงบริเวณนั้นในขณะนั้น แล่นหรือบินออกจากจุดแห่งความแตกต่างของห้วงกาลเวลา หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าได้ว่าบริเวณนั้น มีการเปลี่ยนแปลงของมิติที่ 4 เกิดขึ้น เรือหรือเครื่องบินก็ตาม อาจหลุดหรือผ่านเข้าไปสู่อีกมิติหนึ่ง หรืออีกกาลเวลาหนึ่งก็ได้และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรือ เครื่องบินหายวับไปโดยปราศจาร่อง
แต่ใครละจะกล้าพิสูจน์ว่าทฤษฎีนี้เป็นจริงความเป็นไปได้ ของการบ่ายเบนของมิตินั้นก็เป็นทฤษฎีที่มีตัวเลขยืนยันคำนวณกันแต่บนกระดาษ แต่ในความเป็นจริงแล้วทฤษฎีนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าทดลองเพื่อยืนยัน
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthaisanderson
 ดร.แซนเดอร์สัน ไอแวน (Dr” Sanderson Ivan) 
5. กรณีที่มีเครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์ชัวระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็กลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง 
  • นอกจากนี้ ทฤษฎีของ ดร.แซน เดอร์สัน ยังสามารถใช้อธิบายในกรณีนี้ได้ เพราะเหตุที่ว่าเครื่องบินเหล่านั้น ได้บังเอิญบินหลุดเข้าไปในความแปรผันของสนามเวลา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางมิติขึ้นในทันทีทันใด จุดแปรผันของกาลเวลานาอาจเป็นเพียงบริเวณเล็กๆ ที่เกิดขึ้นเพียงชัวครู่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นดังนั้นจึงมิได้ทำให้เครื่องบินนั้นเคลื่อนย้ายออกไปจากมิติ หรือกาลเวลาปัจจุบันมากนัก ระยะเวลาที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินอาจจะเป็นชั่วระยะสั้นๆ แค่ 1 ในพันของวินาที หรืออาจจะไม่ถึงพริบตา แต่จะทำให้เกิดความแตกต่างกันกับเวลาบนโลกนับได้เป็นนาที หรือชั่วโมงก็เป็นได้
  • และก็ด้วยการแปรผันอย่างรุนแรงของสภาพมิติ ในบางครั้ง มันก็อาจทำให้เรือเดินทะเลขนาดใหญ่ หรือเครื่องินทั้งฝูงหลุดเข้าไปสู่อีกห้วงหนึ่งของกาบเวลาที่ไม่ใช้ปัจจุบัน และผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นก็จะติดอยู่ในห้วยแห่งกาลเวลานั้นโดยไม่มีทางได้กลับออกมาสู่มิติเดิมของเขาได้อีกเลย
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai7178030192_1a58b07694
6. บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นที่ตั้งฐานทัพลับใต้สมุทรของชนชาติลึกลับ หรือของพวกมนุษย์ต่างดาว
  • บางคนคาดว่า : การหายไปของเรือและเครื่องบิน อาจเกิดจากการจงใจ “ขโมย” เรือหรือเครื่องบินรวมทั้งการลักพาคนไปเพื่อการศึกษา หรือเพื่อการทดลอง หรือเพื่อการเก็บไปเป็นตัวอย่างดูเล่นก็เป็นได้ แนวความนึกคิดทำนองนี้ อาจมีทางเป็นไปได้อย่างเหมือนกันผู้ที่ค้นคว้าศึกษาตามแนวทางนี้โดยเฉพาะจะพบว่า ย่านท้องทะเลแอตแลนติก แถบหมู่เกาะเบอร์มิวด้านี้มีรายงานการปรากฏตัวของ ยูเอฟโอ (UFO) หนาแน่นพอๆ กับที่เห็นบนบกตามจุดสำคัญๆ เหมือนกัน
  • คำโต้แย้ง : แต่ปัญหาสำคัญคือ ทฤษฎียังไม่มีหลักฐานอย่งอื่นที่พอจะอ้างได้หรือนำมาชี้ทางสนับสนุไดว่า ยูเอฟโอ มีอะไรเกี่ยวข้อกับการศูนย์หายไปของเรือและเครื่องบิน การปรากฏตัวอย่างหนาแน่นของยูเอฟโอในย่านนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีฐานทัพเร้นลับซ่อนอยู่ใต้มหาสมุทร หรือบนเกาะร้างลี้ลับแห่งใดแห่งหนึ่ง และก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่มนุษย์ต่างดาวจะต้องมาตั้งป้อมคอยขโมยเรือ และเครื่องบิน ของชาวโลกไปมากมายเพื่อประโยชน์อันใดกัน
  • ในกรณีนี้แนวโน้มที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านั้นเป็นบริเวณที่มีสภาวะผิดปกติทางสภาพเวลา – อวกาศตามทฤษฎีของ ดร.แซนเดอต์สันมากกว่าและยูเอฟโอ ที่มาปรากฏตัวในบริเวณนี้มากนั้นก็เนื่องมาจากว่า ยูเอฟโอใช้บริเวณนี้มากนั้นก็เนื่องมาจากว่า ยูเอฟโอใช้บริเวณนี้เป็นเส้นทางผ่านเข้าออกระหว่างมิติภพ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิด้า อาจเป็นบริเวณที่มีการเปิดปิดประตูแห่งกาลเวลา หรือประตูแห่งมิติ โดยธรรมชาติก็ได้.. มันหมายถึงช่องทางที่จะใช้เดินทางผ่านเข้าออกไปสู่ย่าน “ไฮเปอร์สเปซ” นั่นเอง
  • รัฐบาลอังกฤษจึงได้ออกทุนให้ค้นหาเรือ และหาสาเหตุที่ทำให้เรือจม โดยใช้ เรือทุ่นโซนาร์ลากท้าย ค้นหา หลังจากตรวจจับบางอย่างใต้ทะเลขนาดใหญ่ได้ จึงได้ส่งยานดำน้ำไร้คนบังคับ แมกเจนแลนออกไปถ่ายรูปและได้เจอเรือสภาพแตกหักยับเยินนอน อยู่ก้นทะเล
ย้เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ teen.mthai1_display (2)
เรือทุ่นโซนาร์ลากท้าย

แต่เมื่อไม่กี่ที่ผ่านมา ทุกอย่างก็ตลี่คลาย!!!

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ การก่อตัวของก๊าซธรรมชาติ โดยเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ ทำให้เรือและเครื่องบินเสียการควบคุม ก่อนที่จะจมดิ่งสู่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ซึ่งศาสตราจารย์โจเซฟ โมนาแกน หนึ่งในสองผู้วิจัยงานศึกษาไขปริศนาดังกล่าว เสริมว่า บริเวณนั้น มีก๊าซมีเทนจำนวนมากปะทุเป็นฟองก๊าซขนาดใหญ่ แล้วแตกตัวเหนือบริเวณดังกล่าว
เมื่อก๊าซเหล่านี้ขึ้นสู่พื้นผิว มันจะทะยานสู่อากาศ และขยายตัวเป็นวงกว้าง แล้วก่อตัวเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ หากเรือลำใดแล่นผ่านมายังบริเวณนั้น แน่นอนว่าเรือก็จะเข้าไปในฟองก๊าซมีเทนขนาดใหญ่ จนทำให้เรือเสียการควบคุม และจมสู่ทะเลในที่สุด
รายงานยังระบุว่า หากฟองก๊าซมีขนาดใหญ่มากๆ ครอบคลุมความหนาแน่นระดับสูงเพียงพอ ยังสามารถทำให้เครื่องบินที่อยู่บนน่านฟ้า เหนือสามเหลี่ยมฯ เสียการควบคุม และดิ่งสงสู่ทะเลอย่างรวดเร็ว
เรียบเรียง teen.mthai อ้างอิงข้อมูล atcloud.com/stories

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรื่องแปลก เหลือเชื่อ !! จากทั่วโลก


 เกิดขึ้นที่เมืองทะเล Skagen ซึ่งอยู่เหนือสุดของประเทศเดนมาร์ค
เป็นจุดที่น้ำทะเลจากมหาสมุทรแบลทิค (Baltic) และน้ำทะเลจาก
มหาสมุทรทะเลเหนือมาบรรจบกัน แต่ไม่สามรถที่จะรวมตัวกันได้
เพราะความหนาแน่น (density) ของน้ำทะเลจากสองมหาสมุทรต่างกัน
ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

สองครั้งต่อปีที่กระเบนในอ่าวเม็กซิโกย้ายถิ่น กระเบนหลายหมื่นตัว
ย้ายจากเม็กซิโกไปรัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
และย้ายกลับไปเม็กซิโกในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

*************************************************
 

ร้านคาเฟ่ที่อยู่ติดเส้นเขตแบ่งดินแดน
ระหว่างประเทศเนเธอร์แลนด์กับประเทศเบลเยี่ยม
หลุมที่มีขนาดใหญ่ท่สุดในโลก
เป็นเหมืองเพชรใน Eastern Siberia ในประเทศรัสเซีย
ลึก 525 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.25 กิโลเมตร
ในภาพแสดงจุดที่รถบรรทุกวิ่งอยู่ (ลูกศรสีแดง)
เพราะเนื่องจากว่าหลุมดังกล่าวมีแรงดูดมหาศาล ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ทางอากาศบ่อยครั้ง หลุมดังกล่าวจึงถือเป็นเขตห้ามบินไปโดยปริยาย
 

ภาพจากดาวเทียม


*****************************************************
ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานผลิตเครื่องบิน
Lockheed Burbank Aircraft Plant แห่งนี้ ป้องกันการถูกโจมตี
จากญี่ปุ่น โดยการอำพรางโรงงาน ที่เห็นแล้วจะต้องอึ้ง

ก่อนอำพราง

หลังอำพราง




********************************
ใครไปขุดรูบนท้องวัวล่ะนั่น
แม่นแล้ว นักวิทยาศาสตร์เจาะรูบนท้องวัวเพื่อศึกษาระบบย่อยอาหาร
แต่ละชนิดที่มันกินเข้าไป และเอาไว้ศึกษาโรคต่างๆที่จะเกิดขึ้น
ภายในท้องของมัน ดูเหมือนมันจะไม่สนใจสักนิดเดียว



************************************************
เกิดอะไรขึ้นเมื่อมีข้อขัดแย้ง และสุดท้ายจบลงอย่างไร

ภาพนี้คือทางด่วน Hanshin Expressway ในประเทศญี่ปุ่น
ตัดผ่านชั้น 5-7 ของตึก Fukushima Towers
ย้อนกลับไปในปี 1992 เมื่อกรมทางหลวงประกาศเวนคืนที่ดินดังกล่าวเพื่อ
สร้างทางด่วน แต่เจ้าของปฏิเสธที่จะย้ายออกไป สุดท้ายก็เลยลงเอยแบบนี้
 


****************************************************
มันคือถ้ำรึเปล่า???

มันไม่ใช่ถ้ำ แต่เป็นหลุมหลบภัยร้างของรัสเซียที่สร้างขึ้นมาเพื่อ
กำบังช่วงที่ทดสอบระเบิดเพลิง และที่เป็นหนามย้อยลงมานั้น
เกิดจากการละลายของก้อนอิฐที่เกิดจากระเบิดเพลิงและอาวุธอื่นๆ

***************************************************
ใครยังไม่เคยเห็นว่าแผ่นดินเกิดขึ้นได้อย่างไร ภาพนี้ไม่ควรพลาด

ในเดือนสิงหาคม 2006 เรือ Maiken เดินทางจาก
Vava'Islands และได้สังเกตุเห็น Remarkable Stone Sea
ซึ่งคล้ายๆเกาะ แต่เป็นหินขนาดใหญ่ซึ่งลอยอยู่กลางทะเล
 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า คือภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดและสร้างเกาะขึ้นมาใหม่
 



โคตรสะใจ!! เมย์ คว้าแชมป์แบดโลก

โคตรสะใจ ”น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดสาวไทยมือวางอันดับ 4 ของรายการ โค่นเอาชนะหลี่ เสี่ยวเล่ย นักตบสาวมือ 1 โลก จากจีนไปแบบสุดมันส์ในรอบชิงชนะเลิศคว้าแชมป์แบดมินตันชิงแชมป์โลก 2013 ได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 2-1 เซต (22-20, 18-21, 21-14) *พร้อมกับสร้างประวัติศาตร์เป็นหญิงไทยคนแรกที่คว้าแชมป์แบดมินตันโลกได้ ทั้งนี้ในวันที่ 15 สิงหาคม “น้องเมย์” จะขยับขึ้นจากอันดับ 3 เป็นอันดับ 2 ของโลกอย่างเป็นทางการ จากการจัดอันดับของสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF)
BADMINTON-WORLD-CHN
น้องเมย์ สร้างประวัติศาตร์เป็นหญิงไทยคนแรกที่คว้าแชมป์แบดมินตันโลก
น้องเมย์สะใจสุดๆ
น้องเมย์สะใจสุดๆ
1005799_624826594208731_1586361444_n
คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

น้ำผลไม้ และไอศกรีม อย่าเลือกผิด อันตรายกว่าที่คิด !


เลือกน้ำผลไม้ และไอศกรีม
น้ำผลไม้ และไอศกรีม นับเป็น เครื่องดื่ม และของว่าง ยอดฮิต ของใครต่อหลายคนนะคะ วันนี้เรามีหลักในการเลือกเบื้องต้นที่ง่ายๆมาฝากกันค่ะ


เลือกน้ำผลไม้ และไอศกรีม มาเริ่มกันที่น้ำผลไม้ก่อนดีกว่า

หลายคนมีหลักการเลือกน้ำผลไม้โดยพิจารณาดูจากข้อมูลสารอาหารข้างกล่อง แต่ทีนี้ลองสังเกตดูนะคะ ว่าเคยเห็นแสตมป์สีเขียวๆที่ติดข้างกล่องน้ำผลไม้บางยี่ห้อกันรึเปล่า นั่นหมายความว่า น้ำผลไม้กล่องนั้นต้องเสียภาษีสรรพสามิตค่ะ

เลือกน้ำผลไม้ และไอศกรีม แล้วภาษีสรรพสามิต คืออะไร ?
ก็คือภาษีการขายเฉพาะที่เรียกเก็บจากสินค้าและบริการบางประเภท ซึ่งมีเหตุผลสมควรที่จะต้องรับภาระภาษีสูงกว่าปกติ เช่น สินค้าที่บริโภคแล้วอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและศีลธรรมอันดี สินค้าและบริการที่มีลักษณะเป็นการฟุ่มเฟือย สินค้าที่ได้รับผลประโยชน์เป็นพิเศษจากรัฐ หรือสินค้าที่ก่อให้เกิดภาระต่อรัฐบาลในการที่จะต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้บริการผู้บริโภค หรือเป็นสินค้าที่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม

เลือกน้ำผลไม้ และไอศกรีม แล้วเหตุใดน้ำผลไม้และน้ำผักพร้อมดื่ม จึงต้องเสียภาษีสรรพสามิต ?
สาเหตุเป็นเพราะส่วนผสมของ น้ำผลไม้และน้ำผักพร้อมดื่มนั้นเอง ที่มีน้ำตาลและน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ การที่กฎหมายกำหนดให้ต้องเสียภาษีสรรพสามิตก็เพื่อที่จะคุ้มครองผู้บริโภค โดยการควบคุมผู้ผลิตไม่ให้ใช้น้ำตาลกับน้ำเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์มากเกินไปจนอาจก่อให้เกิดผลเสียแก่สุขภาพร่างกายของผู้บริโภค

แต่อย่างไรก็ดี หากเครื่องดื่มน้ำผลไม้และน้ำผักที่มีส่วนประกอบเป็นไปตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตกำหนด กรมสรรพสามิตได้ออกประกาศยกเว้นภาษีสรรพสามิต ทำให้น้ำผลไม้และน้ำผักพร้อมดื่มส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียภาษี

เลือกน้ำผลไม้ และไอศกรีม คำถามที่ตามมาก็คือ ... เหตุใดน้ำผลไม้และน้ำผักพร้อมดื่มบางยี่ห้อจึงยังต้องเสียภาษีสรรพสามิตอีกทั้งๆ ที่กรมสรรพสามิตได้ออกกฎหมายยกเว้นภาษีสรรพสามิตให้แก่น้ำผลไม้และน้ำผักพร้อมดื่มแล้ว ... คำตอบก็คือ เพราะน้ำผลไม้หรือน้ำผักยี่ห้อนั้นไม่ได้มาตรฐานตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตกำหนดนั่นเอง

ดังนั้น เวลาเลือกซื้อน้ำผลไม้หรือน้ำผักพร้อมดื่ม อย่าลืมสังเกตดูให้ดี ว่ามีแสตมป์สีเขียวๆ ติดไว้ข้างกล่องรึเปล่านะคะ


เลือกน้ำผลไม้ และไอศกรีม สำหรับผู้ที่ชอบทานไอศกรีม ยิ่งจะต้องระมัดระวังขึ้นไปอีก

เพราะแม้อย.อนุญาต แต่ไอศกรีมบางยี่ห้อ บางผู้ผลิตจะใช้ไขมันที่เหลือจากโรงฆ่าสัตว์ แทน และได้ใส่ส่วนผสมสังเคราะห์ จากสารเคมีต่าง ๆ ดังนี้

วิธีเลือก น้ำผลไม้ และไอ1. ไดอิธิลกลูคอล (diethyl glucol) สารเคมีราคาถูก ใช้ตีไขมัน ให้กระจาย แทนการใช้ไข่ เป็นสารกันเยือกแข็ง ที่ใช้กันน้ำแข็ง (anti freeze) และผสมในน้ำยากัดสี

วิธีเลือก น้ำผลไม้ และไอ2. อัลดีไฮด์ - ซี71 (aldehyde-C71) ใช้สร้างกลิ่น เชอร์รี่ ทำให้ไอศกรีมเป็นของเหลวติดไฟง่าย และยังนำไปใช้ทำสีอะนิลีน พลาสติกและยาง

วิธีเลือก น้ำผลไม้ และไอ3. ไปเปอร์โอรัล (piperoral) ใช้แทนวานิลลา เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าเหาและหมัด

วิธีเลือก น้ำผลไม้ และไอ4. อิธิลอะซีเตท (ethyl acetate) ใช้สร้างกลิ่นรสสับปะรด ใช้เป็นตัวทำความสะอาดหนังและผ้าทอ กลิ่นของสารเคมีตัวนี้ ทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง ตับ และหัวใจผิดปกติ

วิธีเลือก น้ำผลไม้ และไอ5. บิวธีรัลดีไฮด์ (butyraldehyde) ใช้สร้างกลิ่นรสเมล็ดในผลไม้เปลือกแข็ง เป็นสารประกอบสำคัญในกาวยาง

วิธีเลือก น้ำผลไม้ และไอ6. แอนนิล อะซีเตท (anyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นรสกล้วยหอม เป็นสารทำลายใช้ล้างไขมัน

วิธีเลือก น้ำผลไม้ และไอ7. เบนซิล อะซีเตท (benzyle acetate) ใช้สร้างกลิ่นและรสสตรอเบอร์รี่ เป็นสารละลายไนเตรท

เวลาเกิดความอยากให้คิดถึงสารเคมีเหล่านี้ ทั้งสารกันเยือกแข็ง ตัวทำละลายน้ำมัน น้ำยาลอกสี ยาฆ่าเหา ยาฆ่าหมัด บางยี่ห้อมีตัวนั้นบ้าง มีตัวนี้บ้าง ไมใช่ว่าทุกยี่ห้อ จะมีหมดทุกตัว

นอกจากนี้สารที่ใช้ทำความหวานก็คือ แซคคาริน หรือน้ำตาลเทียม ทั้งมีสารเติมสีเติมกลิ่น ซึ่งเหล่านี้ล้วนพิสูจน์แล้วว่า มีส่วนสนับสนุนทำให้เกิดมะเร็งได้ ไอศกรีม อาหารขยะ เป็นสาเหตุโรคอาหารเป็นพิษ ถึง 98 เปอร์เซ็นต์

เลือกน้ำผลไม้ และไอศกรีม อื่นๆ

น้ำมันพืช.. มีสารกันหืน BTH หรือเปล่า ซีอิ้ว น้ำปลา แมกกี้ มี สารกันบูด (โซเดียมเบนโซเอท) หรือผงชูรส (โมโนโซเดียมกลูตาเมท) หรือไม่

ขนมปัง.. ขาวมีสารกันเสีย สารกันบูดไหม

หรืออาหารใดๆ.. ก็แล้วแต่ แวะอ่านดูฉลากสักนิด ว่า มีผงชูรส มีวัตถุกันเสีย เจือสีสังเคราะห์ แต่งกลิ่น แต่งรส หรือเปล่า แม้ อย.อนุญาตก็ตามเถอะ
...

อ้างอิงข้อมูลน้ำผลไม้ : นางสาวปิยะนาถ เอื้ออริยะพานิชกุล
สำนักกฎหมาย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
https://www.facebook.com/สำนักกฎหมาย-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์  8 มีนาคม 2556

อ้างอิงข้อมูลไอศกรีมและอื่นๆ : yuwita.blogspot.com/
ที่มา : เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข 23 January 2013

credit : http://blog.eduzones.com/

Onagadori


          Onagadori เป็นสายพันธุ์ของไก่ที่มีต้นกำเนิดจากจังหวัดโคจิ ของประเทศญี่ปุ่น มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ทางญี่ปุ่นได้อนุรักษ์ไก่พันธุ์นี้ไว้เป็นอย่างดี เนื่องจากจำนวนที่ลดลง ลักษณะที่โดดเด่นของไก่สายพันธุ์นี้คือมีหางที่ยาวมากเฉลี่ยอยู่ที่ 80 - 100 เซนติเมตร ในปี 1974 มีการบันทึกความยาวหางไก่ได้ถึง 13 เมตร ในปี 2013 วัดได้สูงสุด 3.6 เมตร จากนั้นก็พบว่าขนาดของหางเริ่มลดลงเรื่อยๆอาจเป็นผลกระทบมาจากสิ่งแวดล้อม