วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เครื่องสำอางค์ของชาวอียิปต์สมัยโบราณ มีประโยชน์!!!!




                                                 เครื่องสำอางค์แต่งดวงตาอิยิปต์โบราณฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

        นักวิยาศาตร์ได้ค้นพบว่าเครื่องสำอางค์ของอียิปต์มีวัตถุประสงค์อื่นอีก โดยเครื่องสำอางค์แต่งดวงตาสีดำทำมาจากแร่กาลีนา ซึ่งเป็นแร่ธาตุทึบแสงมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีหลักฐานอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าเครื่องสำอางค์ยังมีหน้าที่เหมือนยารักษาโรคผิวหนังและดวงตาอีกด้วย
ที่มา สำรวจโลก



                                   เครื่องสำอางค์ของชาวอียิปต์สมัยโบราณ มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

       จะเห็นได้ว่ารูปภาพฟาโรห์ และนักบวช จากอียิปต์สมัยโบราณ ล้วนแล้วแต่ทาขอบตาเป็นสีดำกันทั้งนั้น ซึ่งในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าการแต่งหน้าแบบนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการตกแต่งดวงตาให้สวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการป้องการดวงตาจากการติดเชื้อ หรือการอักเสบอีกด้วย
       นักวิจัยชาวฝรั่งเศสกล่าวว่า การแต่งขอบตาเข้มๆ ของราชวงศ์อียิปต์โบราณนั้น มีผลดีต่อสุขภาพ นักวิจัยทดสอบตัวอย่างที่เขียนขอบตา ที่เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ Louvre ในฝรั่งเศส 52 ตัวอย่าง ซึ่งอาจจะเป็นที่เขียนขอบตาของชาวอียิปต์สมัยโบราณในระยะแรกๆ ปรากฎว่าที่เขียนขอบตาดังกล่าวมีประสิทธิภาพ ในการต่อต้านการติดเชื้อมากเป็นทวีคูณ เนื่องจากมีส่วนผสมของสารตะกั่วชนิดต่างๆ ถึง 4 ชนิด
      แม้ว่าสารตะกั่วจะมีพิษในปริมาณสูง และมีการห้ามใช้สารตะกั่วในสีต่างๆ หรือน้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบัน แต่การใช้ในปริมาณเล็กน้อย อย่างในเครื่องสำอางค์ของชาวอียิปต์ กลับมีคุณสมบัติเหมือนยาปฏิชีวนะ
คุณ Neal Lingerman ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และความปลอดภัยเกี่ยวกับสารเคมี กล่าวว่า สารตะกั่วในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยปิดกั้นไม่ให้ตาเชื้อแบคทีเรีย แต่ก็ไม่มากเกินไปที่จะทำให้เป็นอันตราย หรือเจ็บป่วยได้
       ผ้เชี่ยวชาญท่านนี้ ได้ทบทวนการศึกษาดังกล่าว และบอกว่าเครื่องสำอางค์ที่มีสารตะกั่วเป็นส่วนผสมเหล่านั้น ถ้าใช้ในส่วนผสมที่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้ผู้ใช้ปลอดภัยจากการติดเชื้อที่ดวงตาได้ และแน่นอนว่า นักเคมีชาวอียิปต์โบราณ อาจไม่ทราบว่าเครื่องสำอางค์ของพวกเขานั้น มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ และอาจไม่ทราบว่าเครื่องสำอางค์ที่มีส่วนประกอบของสารตะกั่วนั้น อาจช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทานของร่างกาย ในการต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้
        นอกจากนี้ นักวิจัยชาวฝรั่งเศสยังพบว่า เมื่อพวกเขาใช้เครื่องสำอางค์โบราณ กับเซลมนุษย์ที่เพาะขึ้นในห้องทดลอง สารเคมีดังกล่าวผลิตกรดไนตริก ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการส่งสัญญาณกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ให้เพิ่มมากขึ้นเกือบถึง 4 เท่า
การศึกษาเรื่องนี้ ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร Analytical Chemistry

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

10 อันดับ ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013


      หนึ่งประเทศมีหลายแคว้น หลายเมือง หลายรัฐ หลายจังหวัด Lonely Planet นิตยสารท่องเที่ยวชื่อดังจึงจัดชุดใหญ่ คัดสรรหลายสถาน หลากดินแดนที่น่าไปเยือน โดยวัดจากวัฒนธรรม กิจกรรม เส้นทางบุกเบิก ครอบครัว อาหาร การผจญภัย กับ 10 อันดับ ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 

ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013

ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 อันดับ 10. Campania, Italy
ดีที่สุดในด้านวัฒนธรรม ครอบครัว อาหาร
      กัมปาเนีย คือ ภูมิภาคที่มีชื่อเสียงทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี โดยเฉพาะ เนเปิลส์ (นาโปลี) เมืองหลวงของแคว้นกัมปาเนีย ซึ่งมีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร ถือเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 อันดับ 9. Inland Sea, Japan
10 ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013
ดีที่สุดในด้านฒนธรรม กิจกรรม เส้นทางบุกเบิก
      อินแลนด์ ซี ทะเลในอีกหนึ่งภูมิภาคที่คั่นกลางระหว่าง 3 เกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ เกาะฮนชู          เกาะชิโกะกุ และ เกาะคีวชู อินแลนด์ ซี ได้กลายเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำซึ่งเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลญี่ปุ่น และเชื่อมโยงการขนส่งทางทะเลไปยังศูนย์กลางอุตสาหกรรมในภูมิภาคคันไซ
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 อันดับ 8. Palawan, the Philippines
Palawan ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013
ดีที่สุดในด้านเส้นทางบุกเบิก การผจญภัย วัฒนธรรม
      ปาลาวัน ภูมิภาคแห่งการท่องเที่ยว อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฟิลิปปินส์ เป็นเกาะเขตร้อนซึ่งประกอบไปด้วยอุทยานแห่งชาติ อ่าวเงียบสงบ หาดทรายขาวละเอียด ถือเป็นอีกหนึ่งสวรรค์ของการท่องเที่ยว
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 อันดับ 7. Carinthia, Austria
ดีที่สุดในด้านกิจกรรม ครอบครัว คุ้มค่าเงิน
      คารินเทีย ภูมิภาคทางตอนใต้ แห่ง ออสเตรีย อุตสาหกรรมหลักของรัฐ คือ การท่องเที่ยว อิเล็คทรอนิกส์ วิศวกรรม การป่าไม้ และเกษตรกรรม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวฤดูร้อนที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะสกีรีสอร์ท ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางหลักของภูมิภาค
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 อันดับ 6. The Gulf Coast, USA
ดีที่สุดในด้านกิจกรรม ครอบครัว คุ้มค่าเงิน
      กัลฟ์โคสต์ แห่ง สหรัฐอเมริกา หรือบางครั้งเรียกว่า อ่าวใต้ อีกหนึ่งภูมิภาคที่ประกอบไปด้วยพื้นที่ 3 ชายฝั่ง บนอ่าว เม็กซิโก ภาคอุตสาหกรรมมุ่งเน้นการประมง การบินและอวกาศ รวมไปถึงการเกษตรและการท่องเที่ยว
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 อันดับ 5. Chachapoyas & Kuelap, Peru
ดีที่สุดในด้านการผจญภัย วัฒนธรรม เส้นทางบุกเบิก
      ชาชาโปยาส และ คูเอหลาป ภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศเปรู โดย ชาชาโปยาส คือเมืองหลวงของแคว้นในภูมิภาคซึ่งถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอนดีส ปัจจุบันภูมิภาคแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางการเกษตร ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางซากวัฒนธรรมและธรรมชาติอันสวยงาม ชาชาโปยาส และ คูเอหลาป ยังเป็นที่ตั้งของหนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 อันดับ 4. The Yukon, Canada
ดีที่สุดในด้านกิจกรรม การผจญภัย เส้นทางบุกเบิก
      ยูคอน ภูมิภาคทางตะวันตกสุด 1 ใน 3 ของดินแดนที่เล็กที่สุดแห่งแคนาดา เป็นอีกหนึ่งสถานรกร้างที่แฝงไว้ซึ่งความงดงามทางธรรมชาติ และ ยูคอน ถือเป็นภูมิภาคที่มีประชากรน้อยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ใน ปี 2013
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 อันดับ 3. Mustang, Nepal
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก
ดีที่สุดในด้านกิจกรรม เส้นทางบุกเบิก วัฒนธรรม
      มัสตาง แห่ง ประเทศเนปาล แหล่งโบราณคดีที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังเป็นภูมิภาคที่ห่างไกลความเจริญ แม้จะมีการสร้างถนนเชื่อมต่อเส้นทางตอนเหนือของจีนกับเนปาล มัสตาง ได้รับการขนานนามว่าเป็นทิเบตน้อย หรือ อาณาจักรต้องห้ามสุดท้าย
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 อันดับ 2. The Negev, Israel & the Palestinian Territories
ดีที่สุดในด้านการผจญภัย กิจกรรม เส้นทางบุกเบิก
      เดอะ เนเกฟ แห่ง อิสราเอล และ ดินแดนปาเลสไตน์ เป็นภูมิภาคทะเลทรายทางตอนใต้ของประเทศอิสราเอล ครอบคลุมพื้นที่ 12,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีลักษณะคล้ายรูปสามเหลี่ยมกลับหัว แม้สภาพภูมิศาสตร์จะเป็นทะเลทราย แต่ปัจจุบัน เนเกฟ ได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และเป็นที่ตั้งของโรงแรม รีสอร์ท สปา โรงบ่มไวน์ รวมถึงมีโครงการจะสร้างสนามบินนานาชาติแห่งใหม่และรถไฟความเร็วสูงในอนาคต
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013 อันดับ 1. Corsica, Corse
ภูมิภาคน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013
ดีที่สุดในด้านกิจกรรม เหตุการณ์ อาหาร
      คอร์ซิกา หรือ กอร์ส เกาะใหญ่ลำดับที่ 4 บนทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศอิตาลี ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส และทิศเหนือของซาร์ดีเนีย จึงเป็นภูมิภาคที่มีการผสมผสานทางวัฒนธรรมและมีความสวยงามทางภูมิศาสตร์ คอร์ซิกา จึงเหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย และได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัดงาน ตูร์เดอฟร็องส์ (Tour de France) การแข่งขันจักรยานที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
ข้อมูล : travel.thaiza.com เรียบเรียง : travel.mthai.com

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

10 วิธีช่วยให้คุณทำข้อสอบได้ดีขึ้น































10 วิธีที่จะช่วยให้คุณทำข้อสอบได้ดีขึ้น
Don't cram
วิธีนี้ไม่ได้ผลหรอกการเร่งดูหนังสือในเวลาอันสั้นๆจะทำให้คุณเหนื่อยเปล่า คุณควรเตรียมตัวอ่านและทบทวนหลายๆสัปดาห์ก่อนที่จะสอบ
Practice
ถ้าหากคุณเรียนเฉพาะส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงคุณก็จะลืมมัน ได้อย่างรวดเร็ว คุณจำเป็นต้องมีการฝึกฝนเช่นในวิชาภาษาอังกฤษ คุณจะต้องเอาคำศัพท์ใหม่ที่เรียนมานั้นแต่งประโยคและพูดออกมาดังๆ สำหรับวิชาวิทยาศาสตร์คุณจำเป็นจะต้องทำหลาย ๆ แบบฝึกหัดเท่าที่คุณจะทำได้ การฝึกจะทำให้คุณเข้าใจข้อเท็จจริงดีขึ้น
Read with your eyes closed
อันดับแรกคุณก็อ่านจากสมุดจดและหนังสือเรียนด้วยความระมัดระวัง จากนั้นให้ปิดหนังสือและให้หากระดาษมาหนึ่งแผ่น และเขียนหัวข้อสำคัญๆที่อ่านมาแล้ว ซึ่งจะช่วยทำให้คุณเข้าใจว่าคุณจำเป็นจะอ่านทบทวนส่วนไหนเพิ่มเติม
Get the big picture
ทำเป็นโน๊ตย่อหัวข้อที่สำคัญๆโดยดึงเนื้อหาจากสมุดจดหรือจากหนังสือเรียน แบบฝึกหัดหรือสิ่งอื่น ๆ ที่ได้จากห้องเรียน เรียบเรียงลำดับเนื้อหาใหม่ซึ่งจะทำให้คุณเห็นความสัมพันธ์ของเนื้อหาและยัง ทำให้คุณจดจำเนื้อหาได้เป็นเวลานานอีกด้วย
Talk
ให้ถามรุ่นพี่ที่เรียนมาแล้วเกี่ยวกับคำถามหรือเกี่ยวกับ แนวข้อสอบเก่าๆว่าเป็นอย่างไรแล้วคุณจะได้เตรียมถูก หรือพร้อมมากยิ่งขึ้น
Get help
ยามใดที่คุณไม่เข้าใจอะไรสักอย่างขอให้ถามอาจารย์ซึ่งท่าน จะเป็นผู้ที่ช่วยเหลือคุณได้อย่างดีหรืออาจจะเป็นเพื่อน หรือใครก็ได้ที่เข้าใจวิชานั้นเป็นอย่างดีไม่ต้องรอกระทั่งจะถึงวันสอบพรุ่ง นี้แล้วค่อยถาม มันอาจจะเป็นว่าสายเกินไปแล้ว!!!
Triage Principle
ถ้าหากคุณเห็นว่าเวลาเรียนไม่พอแล้ว คุณควรจะทำอย่างไรดี ? ควรจะอ่านในส่วนที่คุณเข้าใจเพียงน้อยนิดหรือควรที่จะอ่านในส่วนที่คุณพอมี ความรู้บ้างคุณควรจะอ่านในส่วนที่คุณพอมีความรู้อยู่บ้างซึ่งจะทำให้คุณรู้ มากยิ่ง ๆ ขึ้น เป็นการดีที่รู้ในบางส่วนที่รู้อยู่แล้วให้รู้มาก ๆ ยิ่งขึ้นดีกว่าการรู้เพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ
Focus on objectives
ให้กลับไปอ่านจุดประสงค์การเรียนอีกรอบ จากนั้นให้ทดสอบรายจุดประสงค์แบบ Pre-test ว่าคุณทำผ่านเกณฑ์ไหม ถ้าจุดประสงค์ไหนทำไม่ได้หรือได้คะแนนน้อย ให้กลับไปเรียนใหม่ตามจุดประสงค์ที่คุณยังไม่รู้เรื่องดีพอ
Manage time
คุณจะต้องดูหนังสืออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อวันในวิชาที่ยากๆอย่างเช่นวิชาเคมี คุณจะต้องจัดตารางเรียนขึ้นมา และจะต้องอ่านตามตารางที่จัดไว้ ให้จัดระบบการอ่านหนังสือกับเพื่อนและจะต้องอ่านตามตารางที่จัดไว้ ซึ่งวิธีนี้จะเป็นบังคับคุณไปในตัวไม่ให้ขี้เกียจ
Relax
พยายามพักผ่อนหรือทำตัวสบายๆอย่าดูหนังสือกับเพื่อนที่ทนงตน หลงตัวเองคิดว่าตัวเองเก่งแล้วไม่ต้องอ่านก็สอบได้ เด็ดขาด คืนก่อนสอบให้เตรียมหนังสือ ปากกาและจัดกระเป๋าให้เรียบร้อยและเขัานอนแต่หัวคํ่า ถ้าหากคุณยังดูหนังสือดึกจะทำให้คุณเหนื่อยและยิ่งทำให้คุณเครียดมากขึ้น เมื่อเข้าสอบจะยิ่งทำให้คุณเบลอไปเลยแหละ!!(นะจะบอกให้)

ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และ http://www.unigang.com/

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กำแพงแห่งความรัก ณ ปารีส ประเทศฝรั่งเศส


     กำแพงแห่งความรัก ณ ปารีส ประเทศฝรั่งเศส กำแพงแห่งรัก ตั้งอยู่กลางสวนแห่งหนึ่ง ที่ปารีส ฝรั่งเศส มีความกว้างยาว 40 ตารางเมตร โดยมีคนเขียนบอกรักกันกว่า 300 ภาษาเลยทีเดียว เรียกได้ว่า นักท่องเที่ยว ที่ได้ไปที่นั่นเป็นต้อง เขียนข้อความ บอกรักกันไว้ แทบทุกคนเลยทีเดียว

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส คนปัจจุบัน


Jean-Marc Ayrault



     Jean-Marc Ayrault, né le 25 janvier 1950 à Maulévrier en Maine-et-Loire, est unhomme politique français, actuel Premier ministre.
     Conseiller général de Loire-Atlantique et maire de Saint-Herblain dans les années1970-1980, il est maire socialiste de Nantes de 1989 à 2012, député de 1986 à2012 et président du groupe socialiste à l'Assemblée nationale de 1997 à sa nomination à la tête du premier gouvernement de la présidence de François Hollande le 15 mai 2012, puis du second le 18 juin suivant.


วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Siemens

     

     Siemens est un groupe international d’origine allemande spécialisé dans leshautes technologies et présent dans les secteurs de l’industrie, de l’énergie et de la santé. Il a été fondé en 1847 par Werner von Siemens. Le groupe, dont le siège est à Munich, est le premier employeur privé d'Allemagne.


Domaines[modifier]


Locomotive Siemens, avec l'ancien logo de la ÖBB

Un appareil IRM fabriqué par Siemens

Une turbine Siemens
Les différentes divisions du groupe Siemens en 2013 sont :
  • Industrie
    • Automatisation
    • Entraînements
    • Services
    • Traitement de l'eau
    • Mécanique de grande dimension
  • Énergie
    • Énergies fossiles
    • Énergies renouvelables dont Siemens Wind Power
    • Oil & Gas
    • Transmission d'énergie
    • Services
  • Santé
    • Imagerie médicale, radiothérapie (scanner IRM, échographie, radiologie, radiologie digitale, médecine nucléaire, distribution d'images (PACS), coronarographies, radiologie interventionelle)
    • Diagnostics de laboratoire (Automates d'analyses médicales et réactifs pour analyses de Biologie médicale)
    • Prothèses auditives (Audioprothèse)
  • Infrastructure & Cities
    • Technologies du bâtiment (Efficacité énergétique, Chauffage, Ventilation, Climatisation, Détection incendie, Contrôle d'accès, Gestion horaire)
    • Eclairage (Osram)
    • Systèmes de transport (Métro dont le système VAL, Rames automotrices Desiro, Trains à grande vitesse ICEVelaro, Trains à sustentation magnétique Transrapid, Systèmes de sécurité)
    • Distribution d'énergie

Siemens en France[modifier]

Quelques années après la création de l’entreprise en 1847, les premières succursales Siemens ont vu le jour et notamment en France en 1878 avec la fondation de la société « Siemens Frères », à Paris21.
En 2010, Siemens en France compte environ 8000 collaborateurs, 7 sites de production, 9 centres de R&D et 6 centres de compétences mondiaux. Le groupe a enregistré un volume d'entrées de commande de 2,5 milliards d’euros (au 30/09/2010)22. L’entreprise est dirigée par Christophe de Maistre, depuis le 7 février 201123 (prédécesseur : Philippe Carli).

Direction de l'entreprise[modifier]


Siemens à Munich


Directoire[modifier]


Forum Siemens à Munich
  • Peter Löscher (en), président du directoire
  • Wolfgang Dehen
  • Brigitte Ederer
  • Joe Kaeser
  • Barbara Kux
  • Hermann Requardt
  • Siegfried Russwurm
  • Peter Y. Solmssen