วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วิธีรับมือกับงานยากๆ

งานล้นมือกำลังทำเราประสาทเสีย เพราะยิ่งคิดถึงมันเท่าไหร่ ก็ดูจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้งานนั้นสำเร็จลงได้ แต่การผัดวันประกันพรุ่งก็ยิ่งไม่ใช่เรื่องดี นี่คือวิธีการรับมือกับมัน 


  • ขั้นแรก คิดไตร่ตรองว่าเราต้องทำอะไรจริงๆ บ้าง หมายถึงงานไหนที่เราควรทำด้วยตัวเอง หากงานกระจิบกระจ้อยทำให้คุณเสียเวลา อาจมอบหมายหน้าที่ให้คนอื่นรับไปทำบ้าง และเมื่อรู้แล้วว่าเหลืออะไรที่เราต้องรับผิดชอบจริงๆ จึงค่อยมาจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง จะทำให้เห็นภาพการทำงานที่ง่ายขึ้น ลองพยายามทำงานที่รู้สึกไม่อยากทำที่สุดก่อน แล้วมองหางานต่างๆ ที่เราอยากทำ โดยเอางานที่ไม่ชอบนั้นแทรกกลางระหว่างงานที่ชอบทำ 2 งาน


  • ขั้นที่ 2 เพื่อให้แน่ใจว่างานนั้นจะสำเร็จได้จริงๆ ต้องใช้วิธีให้คำสัญญากับตัวบุคคล เช่น เพื่อนร่วมงาน หรือเจ้านาย บอกเขาไปเลยว่าคุณหวังว่าจะทำงานเสร็จเมื่อไหร่ ผลงานจะออกมาในรูปแบบไหน แรงกระตุ้นจากการกลัวเสียหน้าจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนถูกไฟจี้ตลอดเวลา และจะพยายามเร่งทำงานตามขั้นตอนที่วางไว้ แล้วให้สำเร็จเร็วขึ้น



  • เห็นไหม งานนี้ก็ไม่ยากอีกแล้ว

    Salaire :: เงินเดือน



    Un salaire est une somme d'argent versée à un employé ou à un salarié en contrepartie de la fourniture d'un travail1. Le montant du salaire versé dépend du contrat de travail, des augmentations de salaires et de la règlementation (Code du travail).
    Le salaire annuel est utilisé pour mesurer de manière plus exacte les revenus d'activité des travailleurs, sur une année civile : en sus des douze mois de salaires, s’il n’y a eu de période de chômage, sont inclus les primes et les éventuels mois supplémentaires « treizième mois » et autres.
    Le salaire horaire (ou taux-horaire) est utilisé pour comparer les rémunérations à la tâche d'employés dont le temps de travail effectif n'est pas comparable : par exemple ceux qui travaillent « à temps plein » et ceux qui travaillent à temps partiel.

    Salaire  คำที่มาจากภาษาละติน salarium มาจาก Sal, เกลือ, ทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการรักษาเนื้อสัตว์ อธิบายไว้ แต่เดิมปันส่วนของเกลือให้กับทหาร (salarium) จากนั้นชี้ไปชดเชยเงินสดจ่ายเพื่อซื้อเกลือและอาหารอื่น ๆ (Argentum salarium)

    การชำระเงินจากค่าจ้างขั้นต่ำ
    จ่ายเงินค่าจ้างไม่สามารถเครดิต: หลักการของการจ่ายเงินจะถูกจ่ายอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาของสัญญา การชำระเงินอาจจะทำรายสัปดาห์, รายไตรมาสหรือถ้าเป็นที่นิยมที่สุดในประเทศฝรั่งเศส, เดือน นี้เรียกว่า mensuel3 เงินเดือน อย่างไรก็ตามการทำสัญญาการจ้างงานหรือการปฏิบัติของอุตสาหกรรมอาจรวมถึงการชำระเงินจากยอดเงินที่เพิ่มเติมในช่วงฤดู​​ร้อนวันหยุด (วันหยุดพรีเมี่ยมเช่นที่เรียกว่า) หรือสิ้นปี (เช่น 13 เดือน°) ระเบียบของค่าจ้างต้องได้ตามการส่งมอบให้กับพนักงานงบจ่ายอธิบายรายละเอียดการคำนวณจากจำนวนเงินที่จ่าย ในกรณีของความยากลำบากหรือการล้มละลายของนายจ้างเป็นจำนวนเงินที่ต้องชำระสำหรับค่าจ้างอยู่ในหมู่หนี้อาวุโส

    วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

    สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก


    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    1. ภาพวาดชื่อ Mona Lisa (เมื่อปี 1503-1507) โดยศิลปินที่มีชื่อของโลก Leonardo da Vinci ในปัจจุบันภาพเขียน Mona Lisa อยู่ในความครอบครองของรัฐบาลฝรั่งเศสและแขวนไว้ที่พิพิธภัณฑ์ the Musee du Louvre ในกรุงปารีส โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ซึ่งติดกระจกกันกระสุนไว้หลายชั้น ประมาณกันว่าภาพนี้มีมูลค่า 690 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคิดจากมูลค่าที่บริษัทประกันให้ไว้ในปี 1962 ที่ราคา 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อจนถึงมูลค่าปัจจุบัน)
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    2. ภาพวาดชื่อ No.5,1948 (เมื่อปี 1948) โดยศิลปิน Jackson Pollock ซึ่งภาพนี้ถูกขายครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ในราคา 140 ล้านเหรียญสหรัฐ ขายโดยนาย David Geffen ให้กับนาย David Martinez โดยไม่ได้ผ่านการประมูล
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    3. ภาพวาดชื่อ Woman III (เมื่อปี 1953) โดยศิลปิน Willem de Kooning ซึ่งภาพนี้ถูกขายครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ในราคา 137.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขายโดยนาย David Geffen ให้กับนาย Steven A.Cohen
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    4. ภาพวาดชื่อ Portrait of Adele Bloch -Bauer I (เมื่อปี 1907) โดยศิลปิน gustav klimt ขายในราคา 135 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ปีที่แล้ว โดยขายให้กับนาย Ronald Lauer พิพิธภัณฑ์ Neue Galerie ที่ New York ภาพนี้เป็นภาพของ Adele Bloch-Bauer ซึ่งเป็นภรรยาของนักอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลชาวยิวชื่อ Ferdinand Bloch-Bauer
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    5. ภาพวาดชื่อ Portrait of Dr. Paul Gachet (เมื่อปี 1890) โดยศิลปิน Vincent Van Gogh ภาพนี้ถูกขายครั้งล่าสุดที่ราคา 82.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ปี 1990 (ซึ่งถ้าปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อ ภาพวาดนี้ควรจะมีราคาอย่างน้อย 130 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภาพนี้ถูกขายให้กับนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น Ryoei Saito ซึ่งภาพวาดนี้เป็นภาพวาดที่ดีที่สุดภาพหนึ่ง ที่วาดโดยสุดยอดศิลปินแบบ Impressionism ชาวฮอลแลนด์ Vincent Van Gogh ซึ่งผู้ซื้อ Ryoei Saito เคยประกาศว่า จะนำเอาภาพวาดนี้ฝังรวมกับศพของเขา หลังจากที่เขาเสียชีวิตแล้ว สุดท้าย Saito ได้เสียชีวิตเมื่อปี 1996 โดยที่ไม่มีผู้ใดเห็นภาพวาดนี้อีกเลย สาเหตุที่ Saito ประกาศเช่นนั้น อาจเป็นเพราะภาษีมรดกที่ประเทศญี่ปุ่น มีอัตราสูงมาก ทำให้เกรงว่าลูกๆ จะไม่มีเงินที่จะเสียค่าภาษี
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    6. ภาพวาดชื่อ Bal au moulin de la Galette, Montmartre (เมื่อปี 1876) โดยศิลปิน Pierre -Auguste Renoir เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงหญิงสาว 2 คน เต้นรำด้วยความสนุกสนานร่าเริง เป็นภาพวาดในช่วงต้นๆ แบบ Impressionism ของ Renoir ภาพนี้ได้จัดแสดงครั้งแรกในการแสดง Third Impressionist Exhibition ในปี 1877 ภาพนี้มี 2 เวอร์ชั่น ภาพใหญ่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Mu?e ? Orsay ในกรุงปารีส ส่วนเวอร์ชั่นภาพเล็กถูกขายเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ปี 1990 ใน New York ให้กับ Ryoei Saito ราคา 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เมื่อปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อแล้ว ภาพนี้น่าจะมีมูลค่าอย่างน้อย 123 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งก็เป็นภาพที่ Ryoei Saito ขู่ว่าจะเผาพร้อมกับศพของเขาเช่นกัน
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    7. ภาพวาดชื่อ Gar?on ? la pipe แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "Boy with a pipe" (เมื่อปี 1905) โดยศิลปิน Pablo Picasso ในช่วง 24 ปีของ Rose Period ที่มีชื่อเสียง ซึ่งช่วงนั้น Picasso ชอบสีส้ม และสีชมพูที่ร่าเริง เป็นภาพสีน้ำมันบนผ้าใบที่แสดงถึงเด็กชาย Parisian ถือไปป์ในมือซ้าย ภาพวาดนี้ถูกขายที่ราคา 104.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ซึ่งถ้าปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อ น่าจะมีมูลค่าอย่างน้อย 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยถูกขายเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ปี 2004 ให้กับ J.Paul ที่ Getty Museum ในกรุง Los Angeles
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    8. ภาพวาดชื่อ Irises (เมื่อปี 1889) โดยศิลปิน Vincent van Gogh ซึ่งเป็นภาพวาดที่วาดในขณะที่เขาลี้ภัยที่ Saint Paul de-Mausole ใน Saint -Rmy -de-Provence ในฝรั่งเศส ในปีสุดท้ายก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 1890 ภาพวาดนี้ถูกขายเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1987 ราคา 54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ซึ่งถ้าปรับตามอัตราเงินเฟ้อจะมีมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภาพวาดนี้ถูกขาย ให้กับ Alan Bond ซึ่งต่อมา Alan Bond ไม่มีเงินจ่ายจึงขายต่อให้กับ Getty Museum ในกรุง Los Angeles
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    9. ภาพวาดชื่อ Dora Maar au Chat แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "Dora Maar with Cat" (เมื่อปี 1941) โดยศิลปิน Pablo Picasso ซึ่งเป็นภาพ ของ Dora Maar ผู้ซึ่งเป็นแฟนคนหนึ่ง (ในหลายๆ คน) ของ Picasso นั่งอยู่ บนเก้าอี้ โดยมีแมวตัวเล็กๆ อยู่บนไหล่ของเธอ ภาพนี้วาดในแบบ Cubist ที่มีชื่อเสียงของ Picasso ภาพนี้ขายครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ปีที่แล้ว ที่ราคา 95.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกินกว่าราคาประเมินในช่วงก่อนการประมูลที่ตั้งไว้ที่ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    10. ภาพวาดชื่อ Portrait de ?artiste sans barbe แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "Self-portrait without beard" (เมื่อปี 1889) โดยศิลปิน Vincent van Gogh เป็นภาพวาดที่ van Gogh วาดให้กับแม่ของเขาก่อนที่จะเสียชีวิต เป็น 1 ในภาพสุดท้ายของเขา van Goghวาดภาพนี้ภายหลังจากที่เขาได้โกนหนวดโกนเครา จึงเป็นภาพวาดที่หาได้ยาก เพราะภาพวาดส่วนใหญ่ของเขาเองจะมีหนวดมีเครา ภาพนี้ถูกขายเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ปี 1998 ที่ราคา 71.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ถ้าคิดปรับเป็นเงินเฟ้อมูลค่าอย่างน้อย 89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    11. ภาพวาดชื่อ Portrait of Adele Bloch-Bauer II (เมื่อปี 1912) โดยศิลปิน Gustav Klimt ภาพนี้ถูกขายเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ที่ราคา 87.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    12. ภาพวาดชื่อ Massacre of the Innocents (เมื่อปี 1611) โดยศิลปิน Peter Paul Rubens ภาพนี้ถูกขายเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ปี 2002 ที่ราคา 49.5 ล้านปอนด์ (หรือถ้าปรับด้วยเงินเฟ้อมีค่าประมาณ 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
      
    13 สุดยอดภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
    13. ภาพวาดชื่อ Les Noces de Pierrette แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "The Marriage of Pierrette" (เมื่อปี 1905) โดยศิลปิน Pablo Picasso ภาพนี้ถูกขายเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี 1989 ที่ราคา 300 ล้านฟรังก์ (ปรับเป็นมูลค่าปัจจุบันประมาณ 80.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
    ที่มา http://atcloud.com 

    วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

    แมลงก้นกระดก ภัยร้ายตัวเล็ก


    ภาษาหนังสือพิมพ์เรียกว่า “แมลงเฟรชชี่” แต่ชาวบ้านร้านตลาดและนักศึกษาทั่วไปจะรู้จักมันในชื่อ “ด้วงก้นกระดก” แมลงด้วงก้นกระดกนี้ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Paederus fuscipes และมีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Rove beetlesโดยปกติแล้วเป็นแมลงที่มีประโยชน์ในฐานะตัวห้ำที่คอยกินแมลงตัวเล็กๆจึงพบมากในพื้นที่การเกษตร นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ในแถบชานเมือง
    แมลงก้นกระดก
    แมลงก้นกระดก
    ลักษณะเป็นแมลงตัวยาวๆสีดำสลับส้ม ในตัวมันจะมีสารที่เป็นพิษกับผิวหนังของคน ทำให้เกิดการระคายเคืองและเกิดการอักเสบได้ การอักเสบของผิวหนังที่เกิดขึ้นจะเริ่มจากเป็นรอยทางแดงๆ จากนั้นก็จะเริ่มมีตุ่มน้ำพองขึ้นมา บางคนที่เกามาก อาจจะเกิดเป็นรอยสีน้ำตาลแดงและตุ่มหนองขึ้นได้
    ความรุนแรงของโรคความรุนแรงของโรคมักมีจำกัด ส่วนมากแล้วมักจะอยู่แค่การเจ็บแสบร้อนผิวหนัง หากทิ้งไว้ระยะหนึ่งก็สามารถหายเองได้ยกเว้นก็แต่เข้าตา ถูกเป็นบริเวณกว้าง แพ้มาก หรือไปเกาจนติดเชื้อซ้ำซ้อนที่อาจจะเป็นปัญหาตามมาได้
    สธ.เตือนภัยจากตัวด้วงก้นกระดก หรือด้วงก้นงอน อย่าจับเล่น ตีหรือบดขยี้ เนื่องจากมีสารพิษอันตรายทำลายเซลล์เนื้อเยื่อ ทำให้ผิวหนังอักเสบเฉียบพลัน ปวดแสบปวดร้อน เป็นแผลพุพอง รายที่แพ้รุนแรงอาจมีไข้ ปวดเส้นประสาทกล้ามเนื้อนานหลายเดือน หากพิษเข้าตา อาจตาบอดได้ แนะวิธีแก้ไขหากถูกพิษ ให้ใช้น้ำสะอาดล้างออกหรือใช้แอมโมเนียเช็ดออก

    เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับแมลงก้นกระดก
    1. การระบาดครั้งใหญ่ เกิดขึ้นที่โอกินาว่าเมื่อ1969 มีคนที่โดนแมลงตัวนี้แล้วเกิดอาการรุนแรง2000กว่าคน
    2. อาการ”ตาอักเสบแบบไนรูบี” เป็นชื่อเล่นๆของโรคตาอักเสบที่เกิดจากแมลงเหล่านี้เข้าตา เพราะแมลงเหล่านี้ก็พบได้มากแถวแอฟริกา
    3. อาการทางผิวหนังอาจคล้ายคลึงจากการโดนแมลงที่ชื่อว่าBlister Beetle
    4. ด้วงตัวที่มีพิษคือตัวเมีย ส่วนด้วงตัวผู้จะได้พิษจากแม่เพียงเล็กน้อย หรืออาจจะได้ในกรณีไปกินซากตัวเมีย ดังนั้นก็ไม่น่าแปลกใจที่บางคนจะเข้าใจว่าแมลงตัวนี้ไม่มีพิษ (เพราะอาจจะเคยโดน แต่โดนตัวผู้)
    แค่มันมาเดินบนตัว บินชนหน้า หรือสัมผัสถูก แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ทุกที่ที่มันสัมผัสมันจะปล่อยกรดที่อยู่ที่ส่วนก้นออกมาทำให้เกิดรอยไหม้ บวม แดง ขึ้น แน่นอนแผลไม่ได้หายง่าย ๆ และพอหายแล้วต้องมารักษารอยแผลเป็นอีกต่างหาก นับว่าเป็นโชค 2 ชั้นเลยทีเดียวละ บางคนมันเข้าตาก็มี สิ่งที่ต้องทำคือต้องรีบล้างด้วยน้ำสะอาดมาก ๆ แล้วไปพบแพทย์ ในทันที
    ถ้ามันมาเดินบนแขน แล้วเผอิญพับแขน แผลจุด ๆ นั่น เป็นจุดที่มันตาย แล้วกรดในตัวมันก็กระจายไปทั่วแขน อันนี้ล่ะแสบไปนาน แล้วแผลอาจจะลามไปได้ จากการแพ้สารเคมีในตัวแมลงที่ปนเปื้อนบนแขน กรณีนี้ให้รีบล้างออกโดยเร็วอย่าได้นิ่งนอนใจ ห้ใช้น้ำสะอาดล้างออกหรือใช้แอมโมเนียเช็ดออก

    วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

    โรคนิ้วล็อก (TRIGGER FINGER) เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม


                                                              
    สาเหตุ เกิดจากการใช้งานของเส้นเอ็นด้านงอนิ้วมือมาก ทำให้เส้นเอ็นเสียดสีกับรอกที่หุ้มเส้นเอ็นจนเกิดการอักเสบของตัวรอก
    อาการ เริ่มแรกจะตึงนิ้วมือ ปวดและบวมบริเวณมือ กำนิ้วมือไม่สะดวกโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังจากตื่นนอน ถ้าอาการเป็นนานขึ้นจนรอกแข็งตัว จะเกิดการสะดุดหรือล็อคของนิ้วมือเวลากำและเหยียดนิ้วมือ
    ใครมีโอกาสเป็นโรคนิ้วล็อก 
           ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 เกิดในผู้หญิงกลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่บ้านที่ใช้มือ ทำงานหนัก เช่น หิ้วถุงพลาสติกหนัก ๆ หิ้วตะกร้า จ่ายกับข้าว ช็อปปิ้ง หิ้วถังน้ำ บิดผ้า เป็นต้น 
           ในผู้ชายมักจะพบในอาชีพที่ต้องใช้มือทำงานหนัก ๆ ซ้ำ ๆ เช่น คนทำสวนใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ ใช้จอบเสียม มีดฟันต้นไม้ ช่างใช้ไขควง สว่าน หิ้วยกของหนักเป็นประจำ เช่น คนขายแก๊ส คนส่งน้ำ หรือกระบะผลไม้ และมักพบบ่อยในคนที่ตีกอล์ฟรุนแรง 
    การปฏิบัติตัว
    1.  ลดการใช้งานของเส้นเอ็นด้านงอนิ้วมือ โดยการหลีกเลี่ยงการกำมือหรือกำของต่างๆ
    2. ดัดนิ้วมือที่มีปัญหาและนิ้วใกล้เคียงให้แอ่นไปด้านหลังมือเป็นระยะ เพื่อให้เอ็นด้านงอยืดตัวดีขึ้น
    3. ไม่ควรออกกำลังนิ้วมือ หรือบริหารนิ้วมือโดยการกำและแบ เพราะจะทำให้เอ็นงอนิ้วมือเสียดสีกับรอกมากขึ้น
    4. ถ้าปวดนิ้วมือหลังตื่นนอน ควรใช้มือด้านตรงข้ามดัดนิ้วที่ปวดให้แอ่นเป็นระยะ (เหมือนข้อ 2)
    ข้อควรระวังในการป้องกัน
    • ไม่หิ้วของหนัก ถ้าจำเป็นต้องใช้ผ้าขนหนูรอง และหิ้วให้น้ำหนักตกที่ฝ่ามือ แทนที่จะให้น้ำหนักตกที่ข้อนิ้วมือ หรือใช้วิธีการอุ้มประคอง ลดการรับน้ำหนักที่นิ้วมือ
    • ไม่ควรบิด ซักผ้า ด้วยมือเปล่า จำนวนมาก ๆ และซ้ำบ่อย ๆ ควรซักด้วยเครื่องซักผ้า และไม่ควรบิดผ้าให้แห้งสนิท เพราะจะยึดปลอกหุ้มเอ็นจนคราก และเป็นจุดเริ่มของโรคนิ้วล็อค
    • นักกอล์ฟที่ต้องตีแรง ตีไกลควรใส่ถุงมือ หรือใช้ผ้าสักหลาดหุ้มด้ามจับให้หนา และนุ่มขึ้นเพื่อลดแรงปะทะ ไม่ควร drive กอล์ฟเป็นเวลาต่อเนื่องนานๆ
    •  การใช้ เครื่องมือทุนแรง เช่น ไขควง เลื่อย ค้อน ฯลฯ ควรใส่ถุงมือ หรือห่อหุ้มด้ามจับให้ใหญ่ และนุ่ม
    • ชาวสวน ควรใส่ถุงมือเพื่อลดการบดของปลอกเอ็นกับเส้นเอ็น ห้ามใช้มือเปล่าหิ้วถังน้ำหนัก ๆ เป็นประจำ ควรต่อสายยาง แทนการหิ้วถังน้ำ
    • คนที่ยกของหนัก ๆ เป็นประจำ เช่น คนส่งน้ำขวด ถังแก๊ส แม่ครัวพ่อครัว ควรหลีกเลี่ยงการยกมือเปล่า ควรมีผ้ารองจับขณะยก และใช้เครื่องทุ่นแรง เช่น รถเข็น รถลากแทน
    • หากจำเป็นต้องทำงานที่ต้องใช้มือกำ หยิบ บีบ เครื่องมือ เป็นเวลานานๆ  ควรใช้เครื่องทุ่นแรง เช่นใช้ผ้าห่อที่จับ ให้ใหญ่และนุ่ม  เช่น  ใช้ผ้าห่อด้ามจับตะหลิว ในอาชีพแม่ครัว
    • งานบางอย่างต้องใช้เวลาทำงานนานต่อเนื่อง ทำให้มือเมื่อยล้า หรือระบม ควรพักมือเป็นระยะๆเช่น ทำ 45 นาที ควรจะพักมือไปทำภารกิจอื่นสัก 10 นาทีเป็นต้น