เราจะพาคุณผู้ชมไปเที่ยวปากีสถาน โดยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ อาจจะหายไปในอนาคต เพราะว่ามันเป็นเกาะแห่งใหม่ที่เพิ่งโผล่ขึ้นมากลางทะเลหลังเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ สร้างความงุนงงให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ข่าวเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดบาลูจิสถาน ประเทศปากีสถานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 300 ราย ขณะที่บ้านเรือนพังเสียหายเกือบทั้งหมด ส่วนแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ยังรู้สึกไปไกลทั่วภูมิภาค ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แม้จะดูเป็นข่าวที่รุนแรงเพราะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ข่าวดังกล่าวกลับถูกกลบกระแส ด้วยข่าวของเกาะ ที่โผล่ขึ้นมากลางทะเลนอกชายฝั่งปากีสถาน อันเป็นผลพวงมาจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว
เกาะที่ใหม่ที่สุดในโลกแห่งนี้ อยู่บริเวณชายฝั่งเมืองกวาดาร์ ที่อยู่ห่างจากนครการาจีไป 533 กิโลเมตร มีขนาดสูง 18 เมตร กว้าง 30 เมตร และยาว 76 เมตร ซึ่งความกว้างก็อาจจะเล็กกว่าสนามเทนนิสเล็กน้อย และสั้นกว่าสนามฟุตบอลนิดหน่อย แต่ก็สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้าน รวมถึงสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก โดยพวกเขาต่างก็มาเยี่ยมชมเกาะแห่งนี้กันอย่างไม่ขาดสาย แต่กลุ่มนักธรณีวิทยาที่ศึกษาเรื่องนี้มาโดยตลอดกลับบอกว่า การที่อยู่ดีๆเกาะจะโผล่ขึ้นมากลางทะเลนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะเปลือกโลกของเรามีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา
โดยมาโคร โบห์นฮอฟ ศาสตราจารย์ด้านแผ่นดินไหววิทยา จากศูนย์ศึกษาธรณีศาสตร์แห่งเยอรมนี ได้เปิดเผยข้อสันนิษฐานของสาเหตุที่ทำให้เกิดเกาะโผล่ขึ้นมากลางทะเลว่า มีอยู่ 2 ทฤษฎีที่น่าจะเป็นไปได้ ทฤษฎีแรกคือ แผ่นเปลือกโลกเกิดการเคลื่อนตัวจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว จนเกิดการยกตัวขึ้นมาเหนือผืนน้ำทะเล ทฤษฎีที่สอง คือ แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ได้ทำให้โลกปล่อยพลังงานมหาศาลออกมา ซึ่งพลังงานเหล่านั้น คือมวลแก๊สที่ทำให้เกิดแรงดัน จนเกิดเนินเขาโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นน้ำ ในลักษณะที่คล้ายกับภูเขาไฟโคลน ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่พบเห็นได้ทั่วไปบนโลก โดยนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ ต่างเทคะแนนไปให้ทฤษฎีที่สองมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการศึกษากันต่อไปว่า แท้จริงแล้ว เกาะแห่งนี้ เกิดจากอะไรกันแน่
จากการลงพื้นที่และสำรวจโดยรอบของเกาะดังกล่าวพบว่า ขณะนี้ มีแก๊สพวยพุ่งออกมาเป็นระยะๆ และผู้ที่อยู่โดยรอบจะได้กลิ่นแก๊สอยู่ตลอดเวลา โดยมีรายงานว่า แก๊สพวกนี้ก่อให้เกิดประกายไฟหลังจากที่มีคนพยายามจะจุดบุหรี่ ขณะเดียวกัน ก็พบปลาตาย ปะการัง และโคลนอีกเป็นจำนวนมากอยู่รอยล้อมเกาะ ซึ่งชาวบ้านที่เข้าไปในบริเวณดังกล่าว ได้เก็บก้อนหิน และโคลนบางส่วนเอาไว้เพื่อเป็นที่ระลึก
อย่างไรก็ตาม ภูเขาไฟโคลนในลักษณะนี้ จะไม่เหมือนภูเขาไฟประเภทอื่น ที่เมื่อลาวาเย็นตัวลงแล้ว จะกลายเป็นหิน แต่ภูเขาไฟโคลน อาจจะหายไปในอนาคต แม้ว่ามันจะอยู่นานเป็นเดือนหรือเป็นปีก็ตาม เหมือนเช่นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2542 - 2543 ที่มีเกาะในลักษณะนี้โผล่ขึ้นกลางทะเล ห่างจากชายฝั่งเมืองกวาดาร์ไป 282 กิโลเมตร เกาะดังกล่าวมีอายุประมาณ 1 ปี และจมหายไปในท้องทะเล หลังจากที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก ในช่วงฤดูมรสุม ที่พัดเข้าปากีสถานเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูร้อนนั่นเอง
Credit : http://news.voicetv.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น