วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

1 วันก่อนสอบ ควรเตรียมตัวอย่างไร

คืนก่อนสอบ
ทบทวนเนื้อหาที่สำคัญพอประมาณและก็ดื่มวีต้าแล้วไปนอนซะแล้วก็รีบนอน ไม่ควรจะอ่านหนังสือดึกเกินไป เพราะจำทำให้เราง่วงตอนสอบ สมองล้าทำให้คิดอะไรช้า แต่หลายคนระวังตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ก็พยายามนับเเกะเอานะครับ ( การกินยานอนหลับก็ช่วยได้ แต่ไม่ควรจะกินเป็นประจำนะครับ แนะนำเป็นยาแก้แพ้ นะครับ ) 
สติกโกลด์ นักประสาทวิทยาชาวอังกฤษได้รายงานผลการทดลองว่า “ในการเรียนรู้ หรือเทคนิกใหม่ๆนั้นต้องได้นอนหลับในวันที่เรียนรู้ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ส่วนความทรงจำที่เข้าสู่สมองโดยไม่มีการพักผ่อนจะไม่ได้รับการบันทึกลงสมอง และจะหายไปในสามวัน” นั่นคือความทรงจำจะถูกจัดเรียงและบันทึกในระหว่างหลับ ดังนั้นการอ่านหนังสือโดยไม่หลับไม่นอน จะทำให้ความรู้เหล่านั้นไม่ได้เก็บรักษาเป็นความทรงจำระยะยาว 
 สำหรับคนที่อ่านไม่ทัน เลยต้องอ่านหนังสือถึงเช้าแล้วเข้าสอบ ( ตอนอยู่มหาวิทยาลัย เป็นแบบนี้กันเยอะ ) บางก็ใช้วิธีโด๊ปเครื่องดื่มบำรุงกำลังช่วย เช่น กระทิงแดง   แบรนด์ และยี่ห้ออื่น ๆ อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิคส่วนตัว
แต่ในทางวิทยาศาสตร์  นักวิจัยในอเมริกาพบว่า คาเฟอีนและนิโคตินช่วยยับยั้งการดูดซึมวิตามินที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมอง  อีกทั้งช่วงแรกอาจจะทำให้ร่างกายตื่นตัวแต่ถ้าหมด ถทธ์ยาแล้ว ร่างกายจะยิ่งโทรม หรือยิ่งง่วงนั่นเอง
อุปกรณ์การสอบ
 ควรจะเตรียมดินสอ ปากา ( ยางลบ ที่ลบคำผิดด้วย ) ไปหลายๆแท่งนะครับ เพื่อเกิดเหตุฉุเกิน  ดินสอเกิดหาย ตอนสอบจะได้แก้ไขทันที  สำหรับดินสอ ก็แนะนำไส้ขนาดมาตราฐาน คือ 2B นะครับ บางคนชอบ EE เพราะมันทำฝนได้เร็ว แต่ขอเตือนว่า บ้างครั้งเครื่องจะไม่ตรวจนะครับ  และที่สำคัญอย่าลืมบัตรนักเรียน บัตรประชาชน  บัตรเข้าห้องสอบ รวมไปถึงเอกสารอื่นๆ ที่ทางผู้จัดสอบต้องการครับ
( หลายคนแนะนำ ให้ใช้ 4B ครับ เพราะหัวจะใหญ่ ทำให้ประหยัดเวลาในการฝนกระดาษคำตอบ แต่ถ้าฝนผิดทีจะลบนี่ลำบากพอควร )
ตื่นนอน
ตามหลักการของนักปลุกพลังระดับโลกนะครับ  เขาแนะนำให้ตื่นนอนมามาตะโกนดังๆ กับตัวเอง  "  เราทำได้  เราทำได้  เราทำได้   " ( ใช้คำอื่นก็ได้ตามศรัทธา เช่น  หนูทำได้ สู้เพื่อแม่  55 )   มันจะเป็นการฝังโปรแกรมเข้าไปในจิตใจลงสู่สามัญสำนึกของเราให้มีกำลังใจ และพลังในการทำข้อสอบครับ  ( ควรจะทำหลายๆ วันก่อนสอบ )    
อย่าลืมฝากบอกคนที่บ้านช่วยปลุกด้วยเผื่อตื่นสาย  บอกให้เพื่อนโทรหาด้วยก็ดี เพื่อความปลอดภัย
 
อาหารเช้า
นโปเลียนกล่าวไว้ว่า กองทัพเดินด้วยท้อง   ในการสอบอาหารในเมื้อเช้าก็สำคัญมากเช่นกัน   ข้อมูลจากสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ยืนยันว่าอาหารเช้าเป็นอาหารมื้อแรกที่สำคัญที่สุดของวัน อาหารเช้าจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า มีสมาธิทั้งในการเรียนและการทำงาน  โดยหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เค็ม ด้วยนะครับเพราะคงไม่มีใครอยากเข้าห้องน้ำตอนสอบ =__=
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เค็ม เผ็ด และไม่ควรทานเยอะเกิน  น้ำก็ควรดื่มให้น้อย เน้นอาการที่ย่อยง่ายทานง่ายนะครับ
ก่อนออกจากบ้าน
อย่าลืม กราบไหว้ ขอพร จากพ่อแม่ ก่อนออกจากบ้านด้วยนะครับ   เพื่อความเป็นศิริมงคล
การเดินทาง
ต้องหาข้อมูลให้ชัดเจน  และต้องแน่ใจว่าเขานัดสอบที่ใด ห้องไหน  ถ้าไม่แน่ใจให้เดินทาง ไปดูล่วงหน้าก่อน   ควรเดินทางไปถึงที่สัมภาษณ์ล่วงหน้าประมาณสัก 15-30 นาที จะทำให้เรามีสมาธิ และมีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น   แต่ถ้าไปถึงล่วงหน้าหลายชั่วโมง ก็ดีแต่อาจจะทำให้คุณรอนานอาจเกิดความหงุดหงิด เสียสมาธิได้
สำหรับ O-NET จะสอบที่โรงเรียนตัวเองก็ไม่น่ามีปัญหาในเรื่องสถานที่ แต่สำหรับคนอยู่ใน กทม หรือเมืองใหญ่ ก็เพื่อเวลาการเดินทางสำหรับ รถติด ฝนตก ไว้ด้วยนะครับ  ( ถ้าเป็นเกาหลี เรียกว่าปิดประเทศ เพื่อให้เด็กสอบเลยครับ เพราะอย่างช่วงเช้า ทั้งรัฐและเอกชนจะเลื่อนเวลาทำงานให้  เพื่อไม่ใก้การจราจรติดขัด เครื่องบินก็ห้ามบินขึ้นลง เพื่อจะไม่ให้มีเสียงรบกวนด้วย  ดีเนอะ )
เมื่อถึงโรงเรียน สนามสอบก่อนเข้าห้องสอบ

บางคนก็ถือเคล็ด  กราบไหว้สิ่งศักสิทธ์อีกรอบ    แต่ที่สำคัญคือพยายาม ตั้งสติ สมาธิทบททวนเนื้อหาบทเรียนที่เตรียมมาอีกสักนิด   หรือแลกเปลี่ยน  ติวข้อสอบกับเพื่อนอีกสักหน่อย   และตรวจเชค อุปกรณ์การสอบอีกสักรอบ
 

เข้าห้องสอบ
โบราณเขาว่า  ขวาร้าย  - ซ้ายดี 555  ดังนั้นก้าวขาซ้ายก่อนละกัน  ( เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไร แป่ว)  …..   ในการสอบใหญ่ เรื่องกฎระเบียบจะสำคัญมากนะครับ  กรุณาทำตามกฎอย่างเคร่งครัด   ถ้าไม่เข้าใจก็ยกมือให้อาจารย์คุมสอบเดินมาหาเราเอง   
ก่อนลงมือทำข้อสอบกรุณาอ่านโจทย์เข้าใจ ว่าเข้าจะให้เราทำอะไรกันแน่    
 สำหรับการทำข้อสอบ ก็  ทำสุดความสามารถ ทำข้อง่าย ก่อนนะครับ บริหารเวลาดีดี ไม่เสียเวลากับข้อสอบข้อใด้ข้อหนึ่งมากเกิน แต่ก็ไม่ต้องรีบร้อนจนเกินไปเพราะยังไงก็ออกจากห้องสอบก่อนไม่ได้      และที่สำคัญ อ่านคำสั่งให้ดีก่อนทำข้อสอบ รวมถึง ฝนและเขียนชื่อ รหัสต่างๆให้ครบด้วยนะครับ
เรื่องทวนข้อสอบเมื่อทำเสร็จแล้ว  บางคนบอกว่า ยิ่งแก้ยิ่งผิด  555 อันนี้ก็อยู่ที่วิจารณญาณส่วนบุคคลนะครับ แต่ผมก็คิดว่าทวนก็ยังดีกว่าไม่ได้ทวน
ตื่นสนามสอบ !! เครียด
ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้แล้วครับ ไม่ต้องไปคิดเยอะ ว่าพอเห็นข้อสอบแล้วจะทำไม่ได้ ว่าจะสอบไม่ติด ว่าจะได้คะแนนน้อย ว่าจะทำให้พ่อแม่เสียใจ ตอนนี้ขอให้พยายามสงบสติอารมณ์ ใครที่ผ่านการสอบแข่งขั้นมาอาจจะโชคดีกว่าหน่อยเพราะจะควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า สำหรับคนที่สอบเป็นครั้งแรก อาจจะมีอาการตื่นสนามสอบ ก็ขอให้หายๆใจลึกๆ คิดถึงสิ่งดีๆ  ( แอบมอง หนุ่มหล่อ สาวสวย ในสนามสอบก็ได้ ฮาฮา )  

เทคนิคการสร้างกำลังใจ
ผมได้อ่านเจอเทคนิคของผู้มีชื่อเสียงระดับโลก อย่าง สตีเฟ่น คิง และ แจ็ค นิคคลอส โดยทำง่ายๆ ดังนี้  สร้างมโนภาพว่าตัวเองกำลังทำอะไร ให้สร้างภาพเหมือนกำลังชมภาพยนตร์ที่เคลื่อนไหวสมจริง จนคุณเชื่องตัวเองจะทำตามนั้นได้  และที่สำคัญที่สุด ให้นึกภาพตัวเองอย่างที่เป็นในปัจจุบัน เสมือนคุณทำสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว  สู้ๆ
สุดท้ายก็ขอให้น้องๆทุกคนโชคดีในการสอบ
ข้อไหนทำไม่ได้ก็ขอให้มั่วถูก
ข้อไหน มั่วไม่ถูก ก็ขอให้ข้อสอบผิด  *0*  

การสอบไม่ใช่การวัดความรู้ของเราอย่างเดียว แต่เป็นการวัดความสามารถในการใช้เวลาที่มีอยู่จำกัดแสดงศักยภาพในตัวเราออกมา และเป็นการทดสอบสภาพจิตใจของเราด้วย ตั้งสติให้ดีค่ะ ถ้าข้อไหนรู้ว่าทำไม่ได้จริงๆ เดาแล้วข้ามไปเลยค่ะ เอาเวลาไปเก็บคะแนนในส่วนที่เราทำได้ ทางที่ดี ทำส่วนที่เราถนัดก่อนดีกว่า  by P.Boom

แต่งโดย UniGang.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น