วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

ประวัติศาสตร์ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในอดีตถึงปัจจุบัน ของประเทศไทย

หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ น้องๆ อาจารย์ ผู้ปกครอง คงจะเข้าใจระะบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยในระบบกลางมากขึ้น จะเห็นถึงปัญญหาต่างๆ มากมาย  UniGang ขอเรียบเรียงออกมาให้ได้อ่านกันจ้า
ตะเลิง เติ้งๆ เติ้ง ...............................................................
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในแต่ละสมัย
ก่อนปีการศึกษา 2504 มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งดำเนินการสอบเอง
ปีการศึกษา 2504 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ จัดสอบร่วมกันมีสภาการศึกษาแห่งชาติเป็นผู้ประสานงาน
ปีการศึกษา 2505 มหาวิทยาลัย 5 แห่ง ที่มีอยู่ในขณะนั้น ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัย ศิลปากร จัดสอบร่วมกัน
การสอบคัดเลือกรวมนี้เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการสละสิทธิ์และการเพิ่มจำนวนที่ต้องสำรองที่นั่งจากการที่ผู้สมัครสอบได้หลายมหาวิทยาลัย ทำให้นักเรียนในขณะนั้นต้องเสียเวลาสอบหลายแห่งมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากและมีผู้สมัครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ปีการศึกษา 2505 มีการจัดสอบเข้ามหาวิทยาลัยร่วมกันครั้งแรก โดยแต่ละปีจัดสอบเพียงครั้งเดียวในช่วงเดือนเมษายน วิชาละสามชั่วโมง แบ่งออกเป็นแผนกวิทย์และแผนกศิลป์ ใช้ข้อสอบแยกกัน เช่น วิชาคณิตศาสตร์ แผนกวิทย์จะเป็น คณิตศาสตร์ กข แผนกศิลป์จะเป็นคณิตศาสตร์ ก
เป็นเช่นนี้มากว่าสามสิบปี ในช่วงนี้ก็มีหลายมหาวิทยาลัยที่ได้ก่อตั้งขึ้น

-ปีการศึกษา 2509 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามข้อเสนอของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้มหาวิทยาลัยต่างๆ กลับไปใช้วิธีสอบแยก แต่การดำเนินการเกิดปัญหามาก มหาวิทยาลัยต่างๆ ต้องเลื่อนเปิดเทอมออกไป เนื่องจากต้องมีการเรียกสอบสัมภาษณ์เพิ่มหลายรอบ
-ปีการศึกษา 2510 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามข้อเสนอของสภาการศึกษาแห่งชาติ ให้มหาวิทยาลัยต่างๆ กลับมาใช้วิธีสอบรวมอีก
-ปีการศึกษา 2516 ทบวงมหาวิทยาลัยรับโอนงานสอบคัดเลือกจากสถานศึกษาแห่ง ชาติจนถึงปัจจุบัน 
การคัดเลือกด้วยระบบ Entrance ระบบใหม่ (พ.ศ.2542-2548)
ปีการศึกษา 2542 ได้มีการนำคะแนนสะสมช่วงชั้นเรียนหรือ GPA มาใช้พิจารณาคะแนนสอบด้วย เพื่อให้นักเรียนเพิ่มความสนใจการเรียนในห้องเรียนด้วย นอกจากนี้ยังมีการสอบสองครั้ง คือในช่วงตุลาคมและมีนาคม โดยแบ่งเป็นแผนกวิทย์และศิลป์เหมือนเดิม วิชาละสองชั่วโมง
โดยเกณฑ์คัดเลือกคือ  GPA 10% และ คะแนนสอบวิชาเฉพาะอีก 90 % แต่ได้มีการพยายามปรับเกณฑ์คัดเลือก GPA เพิ่มเป็น 25 % แต่กระแสต่อต้านรุนแรงเลยยังคงใช้สัดส่วนเท่าเดิม
พ.ศ.2547 เกิดกรณีข้อสอบเอนทรานซ์รั่ว ผู้ที่ถูกสังคมกล่าวหาคือ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร”  ได้รับผลประโยชน์จากข้อสอบรั่วเพราะการสอบรอบที่ 2 ได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากครั้งแรกแบบผิดปกติ   ผุ็ถูกกล่าวหานำข้อสอบออกมาคือ วรเดช จันทรศร เลขาธิการสภาการศึกษาโดยนำเอาซองต้นฉบับการ์ดข้อสอบวิชาภาษาไทยและวิชาสังคมศึกษา ซึ่งเป็นเอกสารลับของทางราชการมาเปิดดูและต่อมาได้นำต้นฉบับข้อสอบที่พิมพ์แล้ว มาเปิดตรวจดู พฤติกรรมดังกล่าว แตกต่างไปจากธรรมเนียมปฏิบัติ แต่ผลสรุปคือ ไม่มีข้อสอบรั่วไหลแต่อย่างใด
การคัดเลือกด้วยระบบ Admissions ระยะที่ 1 2549-2552  : O-NET A-NET
พ.ศ.2549 เป็นปีแรกที่มีการใช้ระบบแอดมิชชัน โดยใช้คะแนน O-net A-net  และ GPA เป็นตัวพิจารณาในการเลือกเข้ามหาวิทยาลัยเนื่องด้วยการสอบที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมองว่าข้อสอบ O-net และ A-net จากส่วนกลางไม่ได้มาตรฐาน หลายสถาบันและหลายหลักสูตรจึงหันกลับมารับนักศึกษาด้วยตัวเอง เช่น ข้อสอบของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย(กสพท.) รวมทั้งข้อสอบรับตรงของแต่ละคณะในแต่ละมหาวิทยาลัย (จุดนี้ถูกมองว่าทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ)
เกณฑ์คัดเลือก
- GPAX 10%
- GPA (กลุ่มสาระ) 20%
- O-NET 35-70%
- A-NET และ/วิชาเฉพาะไม่เกิน 3 วิชา 0-35%
< ทั้งระบบคัดเลือก และจัดสอบ สอทเป็นผู้ดูแล >
การคัดเลือกด้วยระบบ Admissions ระยะที่ 2 พ.ศ. 2553- ปัจจุบัน :  GAT/PAT

ปีการศึกษา 2553 เพิ่มการสอบ GAT PAT โดยจัดสอบปีละสามครั้ง เก็บคะแนนที่ดีที่สุด ใช้ได้สามปี สอบได้ทั้งม.5 และ ม.6 แต่ภายหลังจึงให้สอบเฉพาะ ม.6 เท่านั้น และสอบได้เพียงปีละสองครั้ง  เริ่มจัดสอบครั้งแรก มีนาคม 2552 และนำผลคะแนนไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในปีการศึกษา 2553  และหน่วยงานที่ได้รับการจัดตั้งมาดูแลคือ สทศ
< สอทเป็นผู้ดูแลระบบคัดเลือก  สทศ ดูแลเรื่องการจัดสอบแทน >

เกณฑ์คัดเลือก
1. GPAX 20%
2. O-NET (8 กลุ่มสาระ) 30%
3. GAT (General Aptitude Test) 10-50%
4. PAT (Professional Aptitude Test) 0-40% 
ปี 2554  ที่่ผ่านมา สทศได้มีการนำข้อสอบและเฉลยของเผยแพร่ ปี 2554 เป็นต้นไป จะไม่มีการนำข้อสอบมาเปิดเผยอีกต่อไป เหตุผลคือต้องการจัดทำคลังข้อสอบ >..< แต่สังคมตั้งข้อสังเกตุว่า ทำเพื่อปกปิดความผิดพลาดการออกข้อสอบผิดของตัวเอง
ปีการศึกษา 2555 ได้มีการเพิ่มวิชาสามัญ 7 วิชาเพื่อใช้ในการรับตรงกลาง ก่อนแอดมิชชัน โดยมีหลายมหาวิทยาลัยนำไปใช้คัดเลือกเด็กในรอบรับตรง เช่น จุฬา กสพท  ปัจจุบัน ปีการศึกษา 2557 ได้มีการนำข้อมูล
ปีการศึกษา 2555 มีการเริ่มใช้ระบบ Clearing house เพื่อยืนยันหรือสละสิทธิ์ผู้ที่ได้ที่นั่งจากการสอบตรงแล้ว หากว่าไม่ต้องการจึงสละสิทธิ์ เพื่อมิให้เกิดการกินที่ผู้อื่น ปัญหาคือยังหลายมหาวิทยาลัยไม่เข้าร่วม 
ปีการศึกษา 2556  มีปัญหาเรื่ิองข้อสอบ O-NET วิทยศาสตร์ผิดชุด โดยการตัดสินแก้ไขปัญหาในครั้งแรกคือ ให้คะแนนฟรีทุกคน เลยโดนกระแสต้านอย่างหนัก สุดท้ายคือให้จัดสอบใหม่สำหรับคนที่ได้ ข้อสอบผิด
ปัจจุบัน การจัดสอบโดย สทศ ยังคงโดนกล่าวหาเรื่องข้อสอบไม่ได้มาตราฐาน ข้อสอบยากเกินหลักสูตร อยู่ครับ
ปัจจุบัน เด็ก 1 คนต้องสอบเยอะมาก เช่น ถ้าอยากเป็นเภสัช ต้องวิ่งไล่สอบตรง ม.ต่างๆ เช่น ขอนแก่น บูรพา ศิลปากร ต้องสอบ 7 วิชาสามัญ ทั้ง 7 วิชาเพื่อยื่นรับตรง มหิดล และอื่นๆ ต้องสอบ  GAT PAT2  และต้องสอบ O-NET อีก 8 วิชา

ถ้ามีข้อมูลตรงไหนผิดพลาดช่วยแจ้งด้วยนะครับ  T__T
 ขอขอบคุณ Peter Zhang และข้อมูลจาก สอท
และ เรียบเรียงโดย unigang.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น